จังหวัดมะริด ประเทศเมียนมา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 5 ราย กลับจากย่างกุ้ง ตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงสูง 15 ราย และกักตัวในสเตทควอรันทีน กว่า 300 ราย ทางการเมียนมาสั่ง Lock Down ตำบลกันเค้า อำเภอเมืองมะริดแล้ว ด้านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิดพร้อมสั่งคุมเข้มแนวชายแดนต่อเนื่องป้องกันลักลอบผ่านแดน
วันที่ 16 กันยายน 2563 นายสมเกียรติ เอ่าจี่มิด ผู้อำนวยการศูนย์การจำหน่ายสินค้าไทย จังหวัดมะริด บริษัท AKM Import and Export จำกัด และเจ้าของบริษัท AKM Tourist บริการท่องเที่ยวตะนาวศรี มะริด หมู่เกาะมะริด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 ที่ผ่านมาห้องแล็บของมอละแหม่งได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ตัวอย่างที่ทางโรงพยาบาลเมืองมะริดได้ส่งมาตรวจในวันที่ 13 กันยายน 2563 นั้น
ผลปรากฎว่าได้พบเชื้อ SARS-CoV2 จำนวน 2 ราย สามีอายุ 61 ปี และภรรยาอายุ 58 ปี ซึ่งทั้งคู่ได้เดินทางกลับมาจากย่างกุ้งในวันที่ 3 กันยายน 2563 ด้วยสายการบิน MNA ก่อนหน้านี้ในวันที่ 12 กันยายน 2563 ทางกระทรวงสาธาณสุขได้ประกาศ หญิงภูมิลำเนาอยู่ที่มะริดและได้ตรวจพบเชื้อโควิดที่ย่างกุ้ง
ซึ่งสามีภรรยาคู่นี้เป็นพ่อแม่ของหญิงดังกล่าว อยู่ด้วยกันที่กรุงย่างกุ้งมา ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดมะริด ได้ รวบรวมกักตัวผู้ที่ได้เดินทางมากับสายการบิน MNA ในวันที่ 3 กันยายน 2563 ทั้ง 67 คนแล้ว และได้ Lock Down ตำบลกันเค้า อำเภอเมืองมะริด และ กำลังดำเนินการติดตามผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อมากักตัว
โดนล่าสุดวันนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขเมียนมา ได้ประกาศจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มในอำเภอเมือง จังหวัดมะริดอีก 3 ราย รวมเป็น 5 ราย ซึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัวผู้ติดเชื้อ 2 รายแรกของเมืองมะริด รายแรกเป็นพ่อ อายุ 61 ปี รายที่สองเป็นแม่อายุ 58 ปี รายที่สามเป็นลูกสาว รายที่สี่เป็นลูกสาว และรายที่ห้าเป็นลูกเขย ขณะนี้จังหวัดมะริดมีผู้ติดเชื้อสะสมจำนวน 5 ราย
ซึ่งรายแรกชายอายุ 61 ปีนั้นเป็นผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการการเลือกหมู่บ้านตั้งกันเค้า อำเภอเมือง จังหวัดมะริด ทางส่วนราชการจังหวัดมะริด ได้สั่งให้กักตัวผู้ที่เกี่ยวทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2563แล้ว ผลตรวจเคสตัวอย่างของในวันนี้ปรากฎว่า ผู้เกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่บ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 15 ราย ไม่มีเชื้อ
ขณะนี้มีจำนวนผู้ถูกกักตัวมากกว่า 300 รายในสเตท ควอรัน ทีน ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมในจังหวัดมะริดจำนวน 4 แห่ง มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน อีก 2 แห่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุม ในจังหวัดมะริดด้วย ทางราชการจังหวัดมะริด ยังเชื่อว่าสามารถควบสถานการณ์ได้ในสัปดาห์นี้
สำหรับจังหวัดมะริด ประเทศเมียนมา มีพื้นที่ติดต่อกับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเริ่มมีความสัมผัสทางการค้าและการท่องเที่ยว มานานหลายปี โดยเดินทางด้วยช่องทางผ่านด่านผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
โดยพบว่ามีนักธุรกิจชาวไทยเดินทางไปลงทุนที่จังหวัดมะริดหลายราย และมีนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดมะริดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนักธุรกิจังหวัดมะริดได้ส่งออกสินค้าอาหารทะเลเข้าไทยผ่านจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร รวมถึงธุรกิจด้านการท่องที่ยวระหว่างประจวบคีรีขันธ์และมะริดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งพบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่รัฐยะไข่ ทำให้ประเทศไทยได้สั่งเตรียมความพร้อม โดยได้สั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 10 จังหวัด แนวชายแดนด้านประเทศเมียนมา เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการลักลอบผ่านแดนเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย
ซึ่งนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้นายอำเภอทั้ง 8 อำเภอ มีการเตรียมความพร้อมทันที ทั้งการปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ห้ามมิให้มีการผ่านแดนเข้าออก อนุญาติเพียงขนถ่ายสินค้าบางรายการ และให้จอดรอเพื่อขนถ่ายสินค้าที่หน้าด่าน
โดยไม่ได้รับอนุญาติให้คนหรือรถของเมียนมาข้ามเขตเข้ามาฝั่งประเทศไทย อนุญาติแค่เพียงให้ขนถ่ายสินค้ามายังรถบรรทุกของผู้ประกอบการไทย โดยใช้แรงงานไทยซึ่งต้องสวมหน้ากากอนามัยและรองเท้าบู๊ทในการดำเนินการขนสินค้าเท่านั้น พร้อมทั้งมีความตรวจคัดกรองบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมทั้งฉีดพ้นน้ำยาฆ่าเชื้อที่รถขนส่ง เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโควิด-19
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้ จ่าเอกแก้ว คงวงศ์ ป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมพื้นที่ชายแดน พร้อม เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) สนธิกำลังร่วมกับ พ.อ.ธีรยุทธฑ์ เส้งรอด รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรีสีห์ , ตชด.146 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการปิดกั้นลวดหนามหีบเพลงและขวากไม้ไผ่ตามช่องทางธรรมชาติ พร้อมลาดตระเวนเข้มข้น ตลอดแนวชายแดนเพื่อเป็นการป้องกันการลักลอบผ่านแดนซึ่งอาจจะนำพาเชื้อโควิด-19 เข้าประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย
Cr.ข้อมูล/ สถานการณ์โควิด19จังหวัดมะริด โดย นายสมเกียรติ เอ่าจี่มิด
