คัดข่าวดี » กรมทางหลวงรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ปรับปรุงแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางหลวง หมายเลข 37

กรมทางหลวงรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ปรับปรุงแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางหลวง หมายเลข 37

18 ตุลาคม 2021
639   0

กรมทางหลวง จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนระดับจังหวัด งานสำรวจและออกแบบปรับปรุงปรับปรุงแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 37 สายเลี่ยงเมืองชะอำ

วันนี้(วันที่ 18 ตุลาคม 2564)ที่โรงแรม จี หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ มอลล์ ห้องเสลา อําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายน้ำเพชร กิ่มสร้าง รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์(หัวหิน) โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา ผู้แทนจากประชาชน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมสัมมนาครั้งที่ 3

สำหรับทางหลวงหมายเลข 37 เป็นทางเลี่ยงเมืองชะอําที่เชื่อมโยงการเดินทางระหว่างภาคกลางและภาคใต้ มีสถานที่สําคัญหลายแห่ง ทั้งพื้นที่ธุรกิจ และแหล่งท่องเที่ยวที่สําคัญ ทําให้เป็นเส้นทางที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่น ทําให้เกิดความไม่สะดวก และความล่าช้าในการเดินทาง เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว

โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ,ปีใหม่ จึงจําเป็นต้องมีการสํารวจ และออกแบบปรับปรุงแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 37 ช่วงดังกล่าว และโครงข่ายทางหลวงใกล้เคียง ทําให้สามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น

โดยมีจุดเริ่มต้นโครงการบริเวณ กม.0+000 บริเวณทางแยกต่างระดับชะอำ และสิ้นสุดโครงการบริเวณ กม.47+000 บริเวณทางแยกต่างระดับปราณบุรี-หัวหิน ระยะทาง 47 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

โดยการออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศ และปริมารการจราจรในอนาคต เพ่อให้สามารถอำนวยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ลดผลกระทบต่อชุมชน และสภาแวดล้อมในแนวเส้นทาง

ขณะนี้ได้ดำเนินการศึกษา และออกแบบรายละเอียดโครงการ รวมทั้งรูปแบบทางหลวง การออกแบบจัดการจราจรท้องถิ่น ออกแบบสะพานทางลอด รูปแบบจุดกลับรถ และระบบระบายน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ พร้อมทั้งศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ดังนั้นเพื่อเป็นการรับทราบข้อมูลอย่างเนื่องจึงได้กำหนดให้มีการประชุมสัมมนาครั้ง 3  เพื่อสรุปผลของการศึกษาทั้งหมดให้ผู้มีส่วนได้เสีย ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบผลการศึกษา อันจะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปประกอบการออกแบบให้เหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น