ไฟไหม้ป่าอ้อยร้าง! สะเก็ดไฟปลิวข้ามกำแพงจน’ไฟไหม้ห้องพักโรงแรมดังหัวหิน’เสียหายหนัก 47 หลัง ซ้ำรอยเหตุเพลิงไหม้เมื่อปีที่แล้ว เบื้องต้นประเมินความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท แต่ต้องรอประเมินความเสียหายอย่างละเอียดได้อีกครั้ง ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้อยู่ระหว่างตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
วันที่ 16 พฤษภาคม 2563 เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ร.ต.อ.หญิง พรชนก เลิศอาวาส รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.หัวหิน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงแรมเทวัญดารา รีสอร์ท แอนด์ สปา เลขที่ 451 ถนนหัวหิน ซอยสวัสดิ์มงคล 1 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นไฟไหม้ไปแล้วกว่า 10 หลัง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.หัวหิน ทราบแล้วลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยและรถน้ำดับเพลิงจากกู้ภัยจากมูลนิธิเพชรเกษมหัวหิน,มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน,มูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี,เทศบาลเมืองหัวหิน,เทศบาลตำบลหนองพลับ,อบต.หินเหล็กไฟ,อบต.ทับใต้,อบต.วังก์พง,ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ , ปภ.ประจวบคีรีขันธ์ , หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ จุดห้วยมงคล และรถน้ำจากมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน จุดชะอำ นำรถน้ำดับเพลิงกว่า 20 คัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ระดมช่วยดับไฟ
ทั้งนี้ที่เกิดเหตุพบว่า มีไฟไหม้ที่บริเวณป่าอ้อยร้างและป่าหญ้าซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ติดกับโรงแรม กลุ่มควันไฟสีดำและสะเก็ดไฟฟุ่งกระจายไปทั่วลุกลามขึ้นมาบนผิวการจราจรเส้นทางหน้าโรงแรม ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดการจราจรเป็นช่วงๆเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์ที่สัญจรผ่าน เนื่องจากควันไฟทำให้มองไม่เห็นเส้นทาง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ จุดห้วยมงคล และ ปภ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้นำรถน้ำดับเพลิง เข้าควบคุมเพลิงบริเวณป่าอ้อย และป่าหญ้า รอบข้างโรงแรมฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดประกายไฟติดขึ้นมาซ้ำอีก
โดยวันนี้สภาพอากาศร้อนจัดถึง 35องศาเซลเซียล และมีกระแสลมพัดแรงตลอดเวลา ทำให้สะเก็ดไฟได้ถูกลมพัดปลิวข้ามกำแพงโรงแรมมาติดบ้านพักภายในโรงแรม ซึ่งปลูกบ้านพักเป็นหลังแบบพูลวิลล่ามีพื้นที่ส่วนตัวพร้อมสระว่ายน้ำขนาดเล็ก มุงหลังคาด้วยหญ้าคากับใบจาก และเป็นห้องกระจก ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เพราะกระแสลมที่พัดแรงตลอดเวลาทำให้การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งนี้ภายในโรงแรมไม่มีนักท่องเที่ยวพักอาศัยเนื่องจากยังปิดให้บริการตามประกาศของจังหวัดที่ควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 เจ้าหน้าที่ของโรงแรมพยายามช่วยกันขนทรัพย์สินออกมาจากห้องพักแต่ขนได้ไม่กี่รายการ เพราะไฟลามอย่างรวดเร็ว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ต้องควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด
ทั้งนี้ นายประยงค์ จันทเต็ง นายอำเภอหัวหิน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.หัวหิน , นายนาวิน มูลมงคล นายก อบต.หินเหล็กไฟ และนายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน พร้อมกำลังฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน ได้ลงพื้นที่ร่วมอำนวยการดับเพลิง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงแบ่งกำลังกันนำรถดับเพลิงออกสกัดไฟตั้งแต่พื้นที่รอบนอกโรงแรม และด้านในโรงแรมจุดที่ไฟลามเข้ามาติดห้องพัก โดยเฉพาะบ้านพักฝั่งที่ติดกับรั้วโรงแรมไฟไหม้เกือบทั้งหมด และบ้านพักฝังตรงข้ามไฟไหม้บางหลัง เบื้องต้นคาดว่าไฟไหม้บ้านพักไปประมาณ 20 หลัง เจ้าหน้าที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมไฟให้อยู่ในวงจำกัด โดยใช้เวลาในการดับเพลิงนานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.
ด้าน พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ว่าไฟไหม้ไปทั้งหมดกี่หลังและมูลค่าความเสียหายเท่าไหร่แค่คาดว่าหลายสิบล้าน ทั้งนี้ได้ให้ พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.หัวหิน และตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง เนื่องจากมีข้อมูลว่าโรงแรมดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้วเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2562 ซึ่งเสียหายไปสิบกว่าหลัง ซึ่งลักษณะการเกิดไฟไหม้คลายคลึงกันคือไฟไหม้จากป่าหญ้าข้างรีสอร์ทและลุกลามไหม้ห้องพักภายในโรงแรม ซึ่งจะต้องสอบสวนหาสาเหตุของไฟไหม้ที่แท้จริงต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังเพลิงสงบประเมินเบื้องต้นพบว่า ไฟไหม้บ้านพักแบบพลูวิลล่าไปจำนวน 47 หลัง ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท แต่ต้องรอประเมินความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงต้องรอให้ทีมพิสูจน์หลักฐานประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง ว่าจะเกิดจากไฟป่าที่เกิดขึ้นเองเพราะสภาพอากาศร้อนจัด หรือมีใครลักลอบจุดไฟเผาป่า ก่อนลุกลามไหม้มาไหม้โรงแรมดังกล่าวหรือไม่ ?
