‘วิชิต’ ปราศรัยหัวหินโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ยืนยันไม่ยุบประจวบเอฟซี และพร้อมปราบทุจริต ยุคของตนจะไม่มีค่าหัวคิว ล่าสุดยืนเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบการซื้อสิทธิ์ขายเสียง หัวละ 1-2พันบาท เพื่อให้เลือกตั้งครั้งนี้โปร่งใสมากที่สุด
วันที่ 14 ธันวาคม 2563 ที่บริเวณสวนสาธารณะโผนกิ่งเพชร เทศบาลเมืองหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อบจ.) หมายเลข 2 ผู้สมัครในนามพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยทีมงานผู้สมัครสมาชิกสภาฯ หรือ ส.อบจ.ประจวบฯ อ.หัวหิน
ได้แก่ นายประภา นรทศ ผู้สมัคร อ.หัวหิน เขต 1 , นายประวิทย์ เทียมทัด ผู้สมัคร อ.หัวหิน เขต 2 , นายบัญชาไช น้ำกลั่น ผู้สมัคร อ.หัวหิน เขต 4 , นายกาลการุนต์ สุกสี ผู้สมัคร อ.หัวหิน เขต 5 , นายวิชิตชัย จันทร์สิริรักษ์ ผู้สมัคร อ.หัวหิน เขต 6 และนายสุรศักดิ์ ดุสิตสิทธิพร ผู้สมัคร อ.หัวหิน เขต 7
ได้ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่ อ.หัวหิน ซึ่งเป็นอำเภอสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563 นี้ โดยได้แสดงวิสัยทัศน์และนโยบายต่างๆ ซึ่งมีประชาชนสนใจเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยโดยการนั่งเว้นระยะห่าง แบบ New Normal เพื่อป้องกันโควิด-19
นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อบจ.) หมายเลข 2 ผู้สมัครในนามพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากได้รับความไว้ใจจากพี่น้องประชาชนให้เข้ามาเป็นนายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ จะเข้ามาแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งตนมองว่าอย่างน้อยเมื่อเข้ามาพัฒนาประจวบคีรีขันธ์ เรื่องการท่องเที่ยว คือสิ่งสำคัญ เป็นเรื่องที่จะต้องส่งเสริมสนับสนุน เพราะอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ อบจ.
การแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกร การแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ ผลผลิตมีน้อยเพราะขาดแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของ อบจ.โดยตรงที่จะเข้าไปดูแล เข้าไปส่งเสริม แก้ไขปัญหาให้
เรื่องการศึกษาซึ่งก็สำคัญ ที่ต้องสงเสริม ปัจจุปันเด็กประจวบขาดโอกาสในการเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย เพราะไม่มีมหาวิทยาลัยในประจวบคีรีขันธ์ ต้องเดินทางไปเรียนที่ต่างจังหวัด อบจ.มีอำนาจหน้าที่ที่จะเชื่อมโยงกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้จัดสรรงบประมาณลงมาท้องถิ่น ดึงงบประมาณมาสร้างมหาวิทยาลัยในประจวบคีรีขันธ์
ส่วนเรื่องของการกีฬา เป็นอีกเรื่องที่ต้องส่งเสริม ส่วนกระแสข่าวลือว่าตนจะล้มทีมฟุตบอลประจวบเอฟซีนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน แต่จะทำให้ทีมประจวบเอฟซีให้ดีกว่าเดิมด้วย และพร้อมสร้างทีมฟุตบอลในทุกอำเภอเพื่อให้ลูกหลานได้เล่นกีฬามีโอกาสเป็นนักฟุตบอลในอนาคต ได้สร้างซื้อเสียงให้กับประจวบคีรีขันธ์ ทำควบคู่กันไปกับทีมประจวบเอฟซี
เรื่องแหล่งน้ำ พบว่าพี่น้องตั้งแต่อำเภอเมืองประจวบ อำเภอทับสะแก อำเภอบางสะพานและอำเภอบางสะพานน้อย ขณะนี้กำลังจะประสบปัญหาภัยแล้ง อบจ.จะต้องเข้าไปแก้ปัญหา หากงบประมาณไม่เพียงพอเป็นหน้าที่และศักยภาพของ นายก อบจ.ที่จะต้องเชื่อมโยงกับหน่วยงานต่างๆ บูรณาการกันนำงบประมาณลงท้องถิ่นแก้ไขปัญหากับประชาชนให้ได้
ยืนยันว่าประจวบคีรีขันธ์ต้องดีกว่านี้ ถ้าผมได้นั่งตำแหน่ง นายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมผู้สมัคร ส.อบจ.ทุกเขต หากได้รับความไว้วางใจและได้รับการเลือกตั้งในครั้งนี้
สำหรับความไม่โปร่งใสในโครงการต่างๆของประจวบคีรีขันธ์ หากได้รับเลือกตั้งจะเข้ามาตรวจสอบเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนนั้น วันนี้ต้องยอมรับว่า ปปช.เองได้มีการสำรวจและระบุว่า ประจวบคีรีขันธ์สอบตกเรื่องความโปร่งใสในการบริหาร
ตนมองว่าเรื่องนี้ไม่ยาก ซึ่งสิ่งที่ตนทำได้ทันทีคือการสร้างความโปร่งใสให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด ด้วยการเปิดให้ อบจ.เป็นของประชาชน ให้ประชาชนได้นำเสนอปัญหา นำเสนอการพัฒนา และให้ประชาชนมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบความโปร่งใสได้ ในยุคของตนหากได้เป็น นายก อบจ.รับรองว่าจะไม่มีค่าหัวคิวอย่างแน่นอน ความโปร่งใสแก้ได้ด้วยการให้ประชาชนมามีส่วนรวมให้มาก
ทั้งนี้แต่ละปี อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ มีงบประมาณในการบริหาร ปีละประมาณ 500-600 ล้านบาท เป็นงบใช้จ่ายประจำเกินครึ่ง ที่เหลือเป็นงบพัฒนาและแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวประจวบ ซึ่งตนมองว่าไม่เพียงพอต่อการบริหารงาน ต้องหามาเพิ่ม สิ่งที่ดีอยู่แล้ว ถนนดีอยู่แล้วหรือแหล่งน้ำดีอยู่แล้ว ไม่รื้อแน่นอน จะไม่ทำให้งบประมาณเสียเปล่า แต่จะไปทำในจุดที่พี่น้องลำบากต้องการจริงๆ
โดยล่าสุดได้ยื่นเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียงในพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์นั้น เรื่องนี้ได้รับการตอบสนอง โดยวันนี้ได้คุยกับ รอง ผอ.กกต.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งให้การตอบรับดี แจ้งว่าจะลงพื้นที่ตรวจสอบทันที
ตนอยากสร้างความโปร่งใส สุจริต ต้องการให้การเรื่องตั้งครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่โกงการเลือกตั้ง ให้มีการจับกุมดำเนินคดี โดยกระแสข่าวขณะนี้ การซื้อสิทธิ์ขายเสียงถึงหัวละ 1,000-2,000 บาท ซึ่งล่าสุดมีคุณครูที่รู้จักกันได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า มีคนมาขอซื้อเสียงในราคา 1,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้ตนได้แจ้งข้อมูลให้ กกต.ได้ทราบเรื่องแล้ว
ผมอยากจะเชิญชวนพี่น้องประจวบคีรีขันธ์ แสดงความกล้าออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพราะตนกล้าที่จะลงสมัครเบอร์ 2 เนื่องจากที่ผ่านมาการเลือกตั้ง อบจ.ไม่มีคู่แข่ง อยากเปลี่ยนประจวบให้ดีกว่านี้ หากไม่มีตน ประจวบก็เหมือนเดิม
ตนเรียนจบกฎหมาย เป็นอดีต ส.ส. 3 สมัย และดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีหลายกระทรวง ทำให้มั่นใจว่า จะสามารถบริหาร อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้ดีขึ้นได้ ถ้าผมได้รับความไว้วางใจได้รับการเลือกตั้งในครั้งนี้ “ประจวบฯ ต้องดีกว่านี้” แน่นอน