ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ตาไว เห็นรถกระบะคลุมผ้ามิดชิด แต่ไม่ติดป้ายทะเบียนหลัง สกัดจับได้ที่สี่แยกประจวบคีรีขันธ์ ตรวจค้นในรถเจอใบกระท่อมสดใส่ถุงปุ๋ย ใช้ลังพลาสติกวางปิดอำพลาง จำนวน 25 กระสอบ น้ำหนัก 151.2 กิโลกรัม แถมซุกแผ่นป้ายทะเบียนสำรองไว้ในรถอีกแผ่น
วันที่ 9 มกราคม 2564 พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง สารวัตรตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 2 ( สว.สทล.3 กก.2) จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เพิ่มวงรอบในการตรวจสอบเส้นทางถนนเพชรเกษม เพื่อกวนขันวินัยการจราจรตลอดจนเฝ้าระวังอาชญากรรมการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ เนื่องจากไม่มีการตั้งด่านตรวจตามนโยบายผู้บังคับบัญชา กระทั่งได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีขาว ทะเบียนจังหวัดชุมพร ขนพืชใบกระท่อมวิ่งผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
กระทั่งเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน บย 9632 ชุมพร ใส่ลูกกรงเหล็กที่กระบะ ปิดคลุมด้วยผ้าพลาสติกมิดชิด แต่ไม่ติดป้ายทะเบียนที่ท้ายหลัง ขับผ่านมา จึงได้ขับรถไล่ตามและส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อขอตรวจสอบที่ กม.308+900 ขาขึ้นกรุงเทพฯ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
เมื่อคนขับเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงท่าทีมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อต่อมาคือ นายมนตรี ประกอบปราณ อายุ 41 ปี ชาว ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ คนขับรถ และนางสาวพลับพลึง รุ่งสว่าง อายุ 38 ปี ชาว ต.คลองน้ำไหล ต.คลองลาน จ.กำแพงเพชร เป็นผู้โดยสาร
ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบที่บริเวณกระบะรถ พบลังพลาสติกชนิดที่แม่ค้าใช้ขนสินค้าวางเรียงรอบกระบะรถเพื่อปิดปังถุงปุ๋ยจำนวน 25 กระสอบ ซึ่งด้านในบรรจุพืชใบกระท่อมสด น้ำหนักรวม 151.2 กิโลกรัมไว้ นอกจากนั้นยังตรวจพบป้ายทะเบียน 2ฒว9162 กรุงเทพฯ อีก 1 แผ่นซุกไว้ในรถคันดังกล่าว ซึ่งต้องตรวจสอบว่าเป็นป้ายจริงหรือไม่ หรือใช้ใส่สลับกันเพื่อหลบหนีการกระทำความผิดอย่างไร จากนั้นคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด กลับมาสอบสวนที่สถานีตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้นายมนตรี ยอมรับว่า ได้รับการว่าจ้างจากเพื่อนทางไลน์ ซึ่งไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ให้ขับรถ ไปรับใบกระท่อมสด ทั้งหมดมาจาก จ.ชุมพร เพื่อนำไปส่งลูกค้าที่ จ.ชลบุรี โดยได้ค่าจ้างขนส่งจำนวน 20,000 บาท โดยจะโอนเงินให้หลังจากสินค้าถึงมือลูกค้าแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (พืชกระท่อม) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
