เป็นข่าว » ทับสะแก | รมช.เกษตรและสหกรณ์ เยี่ยมชมการดำเนินงานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนาชุมชนบ้านพุตะแบก

ทับสะแก | รมช.เกษตรและสหกรณ์ เยี่ยมชมการดำเนินงานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนาชุมชนบ้านพุตะแบก

25 มกราคม 2021
815   0

รมช.เกษตรและสหกรณ์  ลงพื้นที่จังหวัดประจวบฯ เยี่ยมชมการดำเนินงานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนาชุมชนบ้านพุตะแบก ชูบทบาทสหกรณ์พัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิกให้มั่นคงอย่างยั่งยืน

วันที่ 25 มกราคม 2564 ที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนาชุมชนบ้านพุตะแบก จำกัด ตำบลเขาล้าน อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสังกัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานของสหกรณ์เครดิตยูเนียนพัฒนาชุมชนบ้านพุตะแบก จำกัด และพบปะเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตรของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเยี่ยมชมผลผลิตและผลิตภัณฑ์ของสมาชิกสหกรณ์

และมอบปัจจัยการผลิตแก่ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ โดยมีนายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการ ประธานสหกรณ์ฯ เจ้าหน้าที่ สมาชิกสหกรณ์ และเกษตรกรในพื้นที่ให้การต้อนรับ

โดย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ได้รับฟังปัญหาความต้องการด้านต่าง ๆ ของผู้นำสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ พร้อมกล่าวมอบนโยบายการดำเนินงานต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการทำอาชีพการเกษตร

จึงได้ดำเนินนโยบายส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้มีการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรในรูปแบบการทำเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) เพื่อให้สินค้าด้านเกษตรมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

การยกระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ในด้านการมีส่วนร่วมขอสมาชิก มีประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ การจัดการองค์กร การบริหารงาน ให้เป็นองค์กรในระดับทุมชน ในการรวบรวม จัดเก็บ แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรและแหล่งเงินทุนในระดับพื้นที่ มีการจัดหาตลาด การจัดหาตลาดเชื่อมโยงเครือข่ายการตลาดระหว่างขบวนการสหกรณ์ ภาคเอกชน เพื่อกระจายผลลิตที่มีคุณภาพ

จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ได้มอบปัจจัยการผลิตแก่สมาชิกสหกรณ์ ได้แก่ พันธุ์ปลา พันธุ์มะพร้าวชุมพร2 เมล็ดพันธุ์ผักและชีวภัณฑ์ น้ำหมักชีวภาพ ให้กับผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ จำนวน 40 ราย และได้พบปะเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่เข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร

สำหรับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 55 ราย มีสถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 1 แห่ง โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ดำเนินการจัดการฝึกอบรม ให้ความรู้

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาน้ำนมดิบ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่ประสบปัญหาไม่สามารถจำหน่ายนมพาสเจอร์ไรซ์ให้กับโรงเรียนได้ ในช่วงการปิดการเรียนการสอนกะทันหัน จากปัญหา covid-19 ต่อไปก็ต้องมีการปรับเปลี่ยน ถ้าหากเกิดมีการหยุดเรียนทำอย่างไรจะให้นมถึงนักเรียน ก็จะต้องมีการนำมาปรับปรุงระบบ

ซึ่งนายยกรัฐมนตรีมีนโยบายที่จะให้เด็กนักเรียนมีสุขภาพที่แข็งแรง ส่วนผลผลิตในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อย่างมะพร้าวที่มีมากในพื้นที่ ก็สามารถนำมาเพิ่มมูลค่าโดยการทำเกษตรอินทรีย์ ไม่ใช่เฉพาะรับประทานอย่างเดียว แต่สามารถต่อยอดแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เพื่อสอดรับกับความต้องการของผู้ที่ชอบด้านเกษตรอินทรีย์

ประกอบกับกรมวิชาการเกษตรส่งเสริมให้มีการปรับเปลี่ยนมะพร้าวเป็นมะพร้าวพันธุ์ต้นเตี้ย ซึ่งมีความแข็งแรง เช่นเดียวกับเมล็ดพันธุ์ผักที่มอบให้เกษตรสามารถนำไปปลูกและกระจายขายได้ รวมถึงพันธุ์ปลา โดยทุกสิ่งที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบให้กับพี่น้องเกษตรกร ไม่ได้มีการตัดต่อพันธุกรรม สามารถที่จะนำไปขยายต่อให้กับหมู่บ้านและชุมชนได้

ส่วนการลงพื้นที่หลายๆจังหวัด ในการสนับสนุนสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งได้มีการร้องขอให้มีงบสนับสนุนให้เรือนครัวในสหกรณ์ สมาชิกในชุมชน ซึ่งได้มีการสนับสนุนไปแล้วก็ทำให้พบว่า การที่ให้การส่งเสริมและให้ช่องทาง พร้อมทุนสนับสนุน เกษตรกรก็สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้ อย่างเช่น กลุ่มที่มีการแปรรูปสับปะรดให้เป็นคุ๊กกี้สับปะรด

และเช่นเดียวกับโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร เพื่อให้ลูกหลานเกษตรกร ได้กลับมาอยู่กับครอบครัว ใช้ความรู้ประสบการณ์จากภาคอุตสาหกรรมและบริการ รวมทั้งเทคโนโลยีต่าง ๆ มาพัฒนาการเกษตรของครอบครัวเป็นการสร้างงานการเกษตรให้เกิดความยั่งยืน

โครงการนี้ไม่ใช่ดำเนินการเพียงรุ่นเดียว พอรุ่นพี่เข้มแข็งก็สามารถจะมีรุ่นน้อง ก็ทำให้จังหวัดนั้นๆ มีความเชื่อมโยง ก็สามารถเกิดความเข้มแข็ง ในแต่ละจังหวัดมีอะไรโดดเด่น เกิดเป็นเครือข่าย หรือพัฒนาเป็นสมาคมลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน ก็จะมีความมั่นคง ต่อไป

สำหรับ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนาชุมชนบ้านพุตะแบก จำกัด ได้จดทะเบียนเป็นสหกรณ์ประเภทออมทรัพย์ เมื่อปี 2527 ซึ่งต่อมานายทะเบียนสหกรณ์ได้แบ่งสหกรณ์ออกเป็น 7 ประเภท และจัดให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนาชุมชนบ้านพุตะแบก จำกัด

เป็นประเภทสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2548 โดยดำเนินงานมาแล้ว 36 ปี ปัจจุบันมีสมาชิกสหกรณ์ จำนวน 7,868 คน มีทุนเรือนหุ้น 241 ล้านบาท มีทุนสำรอง 66 ล้านบาท มีเงินรับฝาก 259 ล้านบาท มีทุนดำเนินงาน 680 ล้านบาท