สสดโควิด19 คร่าชีวิต ชายชาวอังกฤษ ที่หัวหิน ดับเพิ่มเป็นรายที่ 3 มีประวัติสัมผัสญาติในครอบครัวที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยง ด้าน นายแพทย์ สสจ.ประจวบฯ ขอความร่วมมือประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการทั้งสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่างเคร่งครัด และสิ่งสำคัญขอให้งดการรวมตัวทุกชนิด ทั้งงานเลี้ยง งานแต่ง งานบวช งานศพ งานวันเกิด และงดการทานอาหารร่วมกันในครอบครัว หรือรวมญาติ เป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อหยุดเชื้อโควิด-19
วันที่ 30 เมษายน 2564 นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ล่าสุดวันนี้ พบมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มอีก 11 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสม อยู่ที่ 1,075 ราย รักษาหายแล้ว 658 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 414 ราย พบมีอาการรุนแรงจำนวน 16 ราย ทั้งนี้มีประชาชนสัมผัสเสี่ยงสูงและค้นหาเชิงรุก ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วทั้งสิ้น 12,572 ราย
โดยวันนี้มีรายงานพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เสียชีวิตสะสม 3 ราย โดยผู้เสียชีวิตเป็นผู้ป่วยรายที่ 1086 ชาย สัญชาติอังกฤษ อายุ 92 ปี ที่อยู่ อ.หัวหิน มีโรคประจำตัว เป็นโรคหัวใจรักษาต่อเนื่อง
ตรวจพบประวัติ สัมผัสญาติในครอบครัวที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยง โดยวันที่ 24 เม.ย.64 ผู้ป่วยหายใจเหนื่อย รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่สามารถรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำได้ 26 เม.ย.64 หนาวสั่น หายใจเหนื่อย อ่อนเพลียเพิ่มขึ้น 15.32 น. มาถึงหน้าโรงพยาบาล ผู้ป่วยหมดสติ ประเมินไม่พบชีพจร เข้ารับการช่วยพื้นคืนชีพในโรงพยาบาล ใส่ท่อช่วยหายใจ เอกชเรย์พบปอดอักเสบ เสียชีวิต เวลา 17.17 น. ต่อมาวันที่ 29 เม.ย.64 รายงาน พบเชื้อ COVID-19 ในตัวผู้เสียชีวิต
นายแพทย์สุริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชน พร้อมขอความร่วมมือให้ประชาชนป้องกันตนเอง เพื่อช่วยกันหยุดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยข้อที่ 1 คือ การสวม Mask ตลอดเวลาทั้งนอกบ้าน และในบ้าน , 2.ล้างมือด้วย 70 % แอลกอฮอล์ เจล , 3.อยู่ห่างจากคนอื่นเกินกว่า 1 เมตร ตลอดเวลา
และข้อที่ 4 ข้อสุดท้าย ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในระยะนี้ คือการ งดหรือห้าม การรวมตัวทุกชนิด เป็นระยะเวลา 14 วัน ทั้งงานเลี้ยง งานแต่ง งานบวช งานศพ งานวันเกิด และงดการทานอาหารร่วมกันในครอบครัว หรือรวมญาติ ซึ่งในช่วงเวลาที่รับประทานอาหารร่วมกันนี้เป็นช่วงเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสได้ง่ายโดยไม่รู้ตัว จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ร่วมมือกันปฏิบัติทั้ง 4 ข้อนี้อย่างเคร่งครัด เป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อร่วมกันงดเชื้อโควิด-19 ดังกล่าว
ส่วนความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 นั้น ล่าสุด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฉีดวัคซีนซิโนแวด เข็มที่ 1 ไปแล้ว จำนวน 10,416 ราย และเข็มที่ 2 จำนวนน 862 ราย ทั้งนี้วัคซีนล็อตใหญ่ที่จะจัดส่งมาในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ จังหวัดจะเร่งฉีดให้กับประชาชนทั่วไป กว่า 3 แสนราย กระจายในทุกอำเภอ
โดยใช้สถานที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ , ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี , หอประชุมโรงเรียนฯ , ศูนย์การค้า ฯ และโรงแรม ฯลฯ ตั้งเป้าฉีดให้ได้วันละประมาณ 3,600 ราย ต่อ 1 จุด หรือ วันละ 46,800 ราย ซึ่งประชาชนที่สมัครใจขอรับวัคซีนโควิด-19 สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง
ขณะเดียวกัน นางสาวชไมพร อำไพจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีมอบอาหารพระราชทาน จำนวน 3,080 ชุด ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงห่วงใยและทรงตระหนักถึงความเดือดร้อนของราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้
จึงพระราชทานพระราชานุญาตให้สภากาชาดไทย โดย สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ จัดตั้ง “ครัวพระราชทาน อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย” ณ สถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 26 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2564 เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่สำหรับนำไปมอบให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
โดยมอบให้แก่ผู้แทนในอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แบ่งเป็น อำเภอหัวหิน จำนวน 1,530 ชุด อำเภอสามร้อยยอด จำนวน 200 ชุด อำเภอปราณบุรี จำนวน 250 ชุด อำเภอกุยบุรี จำนวน 200 ชุด อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 300 ชุด อำเภอทับสะแก จำนวน 200 ชุด อำเภอบางสะพาน จำนวน 200 ชุด และอำเภอบางสะพานน้อย จำนวน 200 ชุด ณ สถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พร้อมเดินทางพร้อมด้วย นายปรีดา สุขใจ นายอำเภอปราณบุรี และคณะ ไปเยี่ยมผู้พิการและผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ในพื้นที่ตำบลวังก์พง อำเภอปราณบุรี จำนวน 3 ราย เพื่อมอบอาหารพระราชทาน น้ำดื่ม และชุดธารน้ำใจกู้ชีวิตฝ่าวิกฤติโควิด-19 ยังความปลาบปลื้มแก่ประชาชนที่ได้รับอาหารพระราชทานและต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
