เป็นข่าว » ประจวบคีรีขันธ์ | นพ.สสจ.เผย เจอคลัสเตอร์ใหม่ แรงงานเมียนมาติดเชื้อโควิด 113 ราย ในโรงงานสับปะรดกระป๋อง

ประจวบคีรีขันธ์ | นพ.สสจ.เผย เจอคลัสเตอร์ใหม่ แรงงานเมียนมาติดเชื้อโควิด 113 ราย ในโรงงานสับปะรดกระป๋อง

7 พฤษภาคม 2021
2616   0

นพ.สสจ.เผย เจอคลัสเตอร์ใหม่ แรงงานเมียนมา ติดเชื้อโควิดแล้ว 113 รายในโรงงานสับปะรดกระป๋อง จากผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 260 ราย  สอบสวนโรคแล้วพบเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์สถานบันเทิงในหัวหิน แล้วแพร่เชื้อต่อๆกันมา ล่าสุดเร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในโรงงาน ป้องกันการแพร่เชื้อออกนอกโรงงานแล้ว

วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ พร้อมด้วย นางสาวชไมพร อำไพจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดคีรีขันธ์ ร่วมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ครั้งที่ 17/2564

เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากการระบาดระลอกใหม่ และล่าสุดพบผู้ป่วยติดเชื้อกลุ่มก้อนใหม่ “คลัสเตอร์โรงงานสับปะรดกระป๋อง” แรงงานชาวเมียนมาผลตรวจติดเชื้อแล้ว 113 ราย ที่โรงงานสับปะรดกระป๋อง ควอลิตี้ ไพน์แอปเปิ้ล (QPP) ริมถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี หมู่ที่ 3 บ้านหนองนกน้อย ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  เปิดเผยว่า  สำหรับ “คลัสเตอร์โรงงานสับปะรดกระป๋อง”นี้  ล่าสุดจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันติดเชื้อแล้ว 113 ราย จากจำนวนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 260 ราย โดยมีแรงงานในโรงงานดังกล่าวทั้งหมด 593 ราย

ซึ่งขณะนี้ทีมควบคุมโรค ได้เข้าดำเนินการสอบสวนโรค พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในส่วนโรงงาน สำนักงาน โรงอาหาร ห้องพักของแรงงานชาวเมียนมาทั้งแบบรายเดือนและรายวัน รวมทั้งพื้นที่โดยรอบโรงงาน ซึ่งเป็นบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงด้วย

ทั้งนี้ในส่วนของโรงงานได้สั่งปิดการผลิตแล้วตั้งแต่วานนี้ (6พค.)เพียงแต่ดำเนินการผลิตส่วนของสดที่เหลือค้างให้หมดเท่านั้น ซึ่งได้ตรวจสอบขั้นตอนการผลิตแล้วพบว่ามีความสะอาดปลอดภัยตามเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนสาเหตุที่เกิดการติดเชื้อภายในโรงงานนั้น เกิดจากการดื่มน้ำด้วยแก้วน้ำเดียวกัน และพฤติกรรมการสังสรรค์หลังเลิกงาน เป็นกลุ่มย่อย 2-3คน

ซึ่งกรณีนี้ พบว่าจุดเริ่มต้นมาจาก ผู้ป่วยรายที่ 992 ซึ่งเป็นบุตรชายของผู้ป่วยหญิง อายุ 31 ปี ชาวเมียนมาร์ รายที่ 1097 ซึ่งทำงานอยู่ในโรงงานดังกล่าว โดยแต่ละวันจะพาบุตรชายไปฝากเลี้ยง ซึ่งก่อนจะรู้ว่าลูกชายติดเชื้อ ได้ทำงานตามปกติ มีทำขนมไปฝากเพื่อนที่ทำงาน และไปตามสามีที่วงสังสรรค์หลังเลิกงาน

โดยเมื่อทราบว่าพี่เลี้ยงป่วยติดเชื้อโควิด-19 ได้พาลูกชาย อายุ 4 ขวบ ไปตรวจ ที่ รพ.หัวหิน ผลตรวจติดเชื้อและกลายเป็นผู้ป่วยรายที่ 992 ส่วนตัวเองไม่มีอาการ เมื่อกักตัวอยู่ที่บ้านแล้ว ได้เดินทางมาตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 29 เมษายน ผลตรวจติดเชื้อโควิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดและมีการสอบสวนโรคแล้วพบว่า เป็นกลุ่มก้อนเดียวกับสถานบันเทิงในหัวหิน ที่มีการแพร่ต่อๆกันมา กระทั่งเข้าสู่โรงงานสับปะรดกระป๋องดังกล่าว โดยขณะนี้ได้นำผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่มีอาการ ไปรักษาที่โรงพยาบาลสนามโรงเรียนพาณิชยการหัวหินแล้ว และเร่งตั้งโรงพยาบาลสนามภายในโรงงาน เป็น Cowet ward จำนวน 250 เตียง

โดยได้รับสนับสนุเตียงจาก SCG. ​120 เตียง ส่วนที่นอนจากเทสโก้โลตัส​ มุ้งจาก​กาชาดจังหวัด ฯลฯ เพื่อดูแลสังเกตอาการผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่ม โดยหลังจากนี้จะมีมาตรการเชิงรุก สุ่มตรวจทุกโรงงานทั้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์กว่า 300 แห่ง หากพบติดเชื้อจะดำเนินการสอบสวนโรคป้องกันการระบาดทันที

นายแพทย์สุริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคร้าย ซึ่งจะฉีดระหว่างวันที่ 7-11 มิถุนายน 2564 นี้ พบว่าลงทะเบียนน้อยมาก ล่าสุดมีประชาชนลงทะเบียนเพียงแค่ 8 พันกว่าคนเท่านั้น ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่กังวลผลข้างเคียง และผู้สูงอายุไม่สามารถลงทะเบียนทางแอพพิเคชั่นได้

จึงขอประชาสัมพันธ์ให้มาลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลใกล้บ้านแทน ทั้งนี้หากถึงวันฉีดวัคซีนแต่ยังมีการลงทะเบียนน้อย จะปรับให้กลุ่มเสี่ยงอื่นที่ต้องพบเจอลูกค้า หรือทำงานเป็นกลุ่ม ได้ฉีดวัคซีนแทนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับวัคซีนที่เบิกมา ซึ่งต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการระบาดระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 7 พฤษภาคม 2564  โดยวันนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มอีก 27 ราย ติดเชื้อสะสม 1,167 ราย รักษาหายแล้ว 881 ราย กำลังอยู่ระหว่างรักษา 282 ราย อาการรุนแรง 11 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 4 ราย และเสียชีวิตสะสม 4 ราย ส่วนสถานการณ์ฉีดวัคซีน ฉีดไปแล้ว 12,259 โด๊ส ฉีดเข็มที่ 1 ไปแล้วจำนวน 10,416 คน และเข็มที่ 2 จำนวน 1,843 คน