ผู้ว่าประจวบฯ ออกคำสั่งกักตัวแรงงานเมียนมา “กลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูง” โรงงานผลไม้กระป๋อง โดลไทยแลนด์ กว่า 1 พันคน ควบคุมโควิด-19 หลังพบคลัสเตอร์โรงงานสับปะรดกระป๋อง ติดเชื้อสะสมแล้ว 56 ราย
วันที่ 26 พฤษภาคม 2564 นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15 ราย ติดเชื้อสะสม 1,611 ราย รักษาหายแล้ว 1,291 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 316 ราย พบอาการรุนแรง 4 ราย และเสียชีวิตสะสม 4 ราย ทั้งนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่อยู่ระหว่างกักตัวอีกจำนวน 419 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15 รายนั้น เป็นชาวไทย 5 ราย เมียนมา 10 ราย โดย 1 ราย เป็นชาวเมียนมา อายุ 42 ปี หลบหนีเข้าเมืองเมื่อวันที่ 24 พ.ค.64 โดยเดินทางมาจากย่างกุ้ง ลักลอบเข้าประเทศไทย ทางช่องเขาดิน ม.9 ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
ส่วนที่เหลืออีก 14 ราย จากการค้นหาเชิงรุก คนไทย 5 ราย และ เมียนมาอีก 9 ราย โดยเป็นผู้ป่วยกลุ่มคลัสเตอร์โรงงานผลไม้กระป๋อง บริษัท โดล ไทยแลนด์ จำกัด หมู่ 4 ต.หนองพลับ อ.หัวหิน ล่าสุดพบติดเชื้อสะสมแล้ว จำนวน 56 ราย ซึ่งผลผู้ป่วยรายแรก เมื่อวันที่ 8 พ.ค.64 ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวที่สัมผัสกับผู้ป่วยโรงงาน QPP บริษัทควอลิตี้ ไพน์แอปเปิล ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน
โดยขณะนี้ทางโรงงานยังไม่ได้หยุดไลน์การผลิต เนื่องจากมีการตรวจสอบแล้วพบว่า ขั้นตอนการผลิตมีความสะอาด ปลอดภัย โอกาสการปนเปื้อนเป็นไปได้ยาก ทำให้มีความมั่นใจได้ว่าการผลิตมีความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่จะมีสุ่มตรวจตัวอย่างสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีการสุ่มตรวจหาเชื้อโควิด19 จากประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนบริเวณรอบโรงงาน จนขณะนี้ยังไม่พบการแพร่เชื้อสู่ชุมชน
โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมการติดเชื้อให้อยู่ในวงจำกัด โดยได้ประสานโรงงานทำการกักตัวแรงานเมียนมาทั้งหมด กว่า 1 พันคน 14 วัน เพื่อสังเกตอาการ เพื่อให้ชุมชนมั่นใจ โดยผู้ป่วยทุกคนที่ยืนยันติดเชื้อแล้ว จะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลหัวหิน
โดยล่าสุด นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 5213/2564 เรื่องการจัดตั้งสถานที่แยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต
เพื่อกักตัวแรงงานที่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดและเป็นกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูง เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน หรือจนกว่าจะตรวจแล้วไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยใช้สถานที่หอพักหรือห้องภายในโรงงานเป็นสถานที่กักกัน แต่เนื่องจากจำนวนกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงมีจำนวนมาก หอพักในโรงงานอาจมีไม่เพียงพอและเกิดความแออัด
จึงให้ใช้สถานที่อาคารที่พักมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล และที่พักแอดเดอร่าหัวหิน เป็นสถานที่แยกกัก กักกัน หรือควบคุมไว้สังเกตอาการ
- โดยห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานเหล่า จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อพื้นที่
หากฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติ มีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรงติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท มีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรงติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ทั้งอาจเป็นความผิดและได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งปิดโรงงาน เพื่อป้องกันการกระจายตัวของแรงงาน ทำให้ยากต่อการควบคุมตัว เหมือนกับโรงงาน ที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
โดยเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวแรงงานที่มีความเสี่ยงมากักตัวสังเกตอาการทั้งหมด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อสู่ชุมชนโดยรอบ ทั้งนี้จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันนี้
โดยในช่วงบ่ายเวลา 14.00 น.จะมีการแถลงการปฏิบัติอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยนายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์