ระดมทีมแพทย์พยาบาล ฉีดวัคซีน “แอสตร้าเซนเนก้า” ให้ผู้สูงอายุและ7กลุ่มโรคเรื้อรัง 14,100 โด๊ส ด้าน นพ.สสจ.ประจวบฯ เผย ภาพรวมทั้งจังหวัดฉีดวัคซีนได้ลื่นไหลดี มีปัญหาเล็กน้อยต้องปรับแผนกันหน้างาน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน อย่ามัวแต่ตำหนิกันไปมา สำหรับบุคคลใดทีรายชื่อตกหล่น ขอให้นำหลักฐานพร้อมบัตรประชาชนมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ในวันพรุ่งนี้ (8มิถุนายน) พร้อมฉีดวัคซีนให้ตามวัคซีนที่เหลืออยู่ แต่หากไม่มีหลักฐานจะต้องลงทะเบียนใหม่ในระบบหมอประจวบพร้อมแทน
วันที่ 7 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเพื่อป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปและ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ซึ่ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับการจัดสรรวัคซีน จำนวน 14,100 โด๊ส กระจายให้กับประชาชนใน 8 อำเภอ ที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม
โดยที่โรงพยาบาลหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบว่าผู้สูงอายุจำนวนมากส่วนใหญ่เดินทางมาพร้อมบุตรหลาน มารอเข้าคิวฉีดวัคซีนกันตั้งแต่เช้าก่อนเวลานัดหมาย ซึ่งจะต้องตรวจคัดกรอง กรอกประวัติ และวัดความดันแต่ละบุคคลก่อน ซึ่งทางโรงพยาบาลหัวหินได้ระดมทีมแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหัวหิน และมีทีมเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลซานเปาโลหัวหิน และโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน กว่า 300 คน เพื่อให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด
นายแพทย์นิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวหิน กล่าวว่า วันนี้ทางโรงพยาบาลหัวหิน ได้รับวัคซีน 2,514 โด๊ส จึงได้จัดแบ่งคิวการฉีดวัคซีนเพื่อไม่ให้เกิดความแออัดมากจนเกิดไป โดย ประชาชนที่ลงทะเบียนลำดับที่ 1-1,500 ฉีดวัคซีนที่ตึกส้ม อาคารจอดรถ ส่วนคิวที่ 1,501-2,514 และผู้ใช้รถเข็น ฉีดวัคซีนที่ตึกสีเหลือง ซึ่งการให้บริการฉีดวัคซีนลื่นไหลดี ซึ่งจะทยอยฉีดวัคซีนจนหมดตามแผนที่วางไว้
ทางด้าน นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ภาพรวมทั้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สามารถดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้อย่างลื่นไหล พบปัญหาน้อยมาก โดยเบื้องต้นในวันนี้ตนออกตรวจใน 3 โรงพยาบาลสำคัญ ได้แก่ โรงพยาบาลปราณบุรี โรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์ และโรงพยาบาลหัวหิน
โดยแต่ละแห่งมีการจัดการที่ต่างกัน เช่น โรงพยาบาลปราณบุรี มีการเรียกคิวครึ่งวันซึ่งฉีดวัคซีนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนโรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์ จะเรียกคิวทุกชั่วโมง ซึ่งพบว่ามีความสับสนที่หน้างานเล็กน้อย บุคคลที่อยู่ในลำดับคิวยังมาไม่ถึง คิวถัดไปมาถึงก่อน ต้องปรับแก้ไขปัญหาที่หน้างาน
ส่วนที่โรงพยาบาลหัวหินนี้ ระบบค่อนข้างดี เปิดให้คิวทั้งวัน ใครมาก่อนฉีดก่อน มีระบบการจัดการที่ดี ครึ่งวันฉีดได้กว่า 750 รายแล้ว ถือว่าค่อนข้างเร็ว พบปัญหาว่า มีบุคคลที่ยังไม่อยู่ในคิวแต่มานั่งรอ ซึ่งต้องมีการอธิบายก่อน ผลข้างเคียงค่อยข้างน้อย
สำหรับปัญหาในอนาคต จะเป็นเรื่องของวัคซีนที่มาพร้อมกันจำนวนมาก ในรอบประชาชนทั่วไป จะต้องวางแผนในการบริหารจัดการจำนวนมาก การฉีดวัคซีนในครั้งแรกๆนี้จะช่วยให้เรียนรู้และเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการครั้งต่อไปได้ดีมากขึ้น เชื่อว่าการฉีดวัคซีนคราวหน้าจะดีขึ้นกว่านี้ หน้างานค่อนข้างยุ่ง ต้องแก้ไขปัญหาตลอดเวลา อย่าตำหนิกันแต่ขอให้ให้กำลังใจซึ่งกันและกันจะดีกว่า เพื่อการแก้ไขปัญหาที่ดี
ส่วนความเร็วในการฉีดวัคซีนนั้น แต่ละโรงพยาบาลสามารถทำได้ดี อย่างโรงพยาบาลหัวหิน ครึ่งวันฉีดได้ 750-800 ราย ถือว่าทำได้ดี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่มารอด้วยว่า มารอพร้อมกันหรือไม่ หากมารอพร้อมแล้ว ขั้นตอนการฉีดจะใช้เวลาไม่นาน จะสามารถทำความเร็วได้มากกว่านี้อีก กำลังดูความสามารถว่า จะฉีดได้ชั่วโมงละ 450 ราย หรือไม่หรือประมาณ ครึ่งวัน 1,200 ราย ขึ้นอยู่กับความพร้อมของคนที่มารอฉีดวัคซีน
ล่าสุดโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์สาธิตขีดความสามารถในการฉีดวัคซีน 1 ชั่วโมงสามารถฉีดวัคซีนได้ 500 ราย ซึ่งว่าเร็วที่สุดในจังหวัดแล้วขณะนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความพร้อมของคนที่มารอฉีด หากทำได้ทั้งจังหวัดจะสามารถฉีดวัคซีนได้ชั่วโมงละ 40,000 ราย แต่ส่วนใหญ่จะทยอยเดินทางมาทำให้ตัวเลขไม่สูงตามที่สามารถฉีดได้
หากรายชื่อตกหล่น ให้นำหลักฐานว่าจองคิวฉีดวัคซีนได้เรียบร้อยแล้ว พร้อมบัตรประชาชน มาให้ตรวจสอบที่โรงพยาบาล ในวันพรุ่งนี้วันที่ 8 มิถุนายน เพื่อจะดำเนินการฉีดวัคซีนให้ เฉพาะบุคคลที่จองคิววันที่ 7และ8มิถุนายนในแอพหมอพร้อมเท่านั้น ส่วนคิววันอื่นให้รอวัคซีนก่อน แต่หากไม่มีหลักฐานยืนยันสิทธิ์ จะต้องจองฉีดวัคซีนใหม่ในระบบหมอประจวบพร้อมแทน ซึ่งล่าสุดมีการจองคิวในระบบหมอประจวบพร้อมแล้วกว่า 30,000 คน ซึ่งคิวรันยาวไปถึงปลายเดือนกรกฎาคมหรือเดือนสิงหาคมแล้ว
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 45 ราย ใน 2แห่งคือ บุคคลเสี่ยงสูงในโรงงานโดล พบอยู่ 17 ราย ซึ่งโรงงานนี้เตรียมปล่อยแรงงานเมียนมาที่กักตัวครบ 14 วันในวันพุธที่ 9 มิถุนายนนี้ ราว 900 คน ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 300-400 คน ยังกักตัวต่อ
ส่วนผู้ป่วยที่เหลือ เป็นบุคคลเสี่ยงสูงของโรงงานแปรรูปไก่สด สุรชัย ซึ่งเป็นผู้ที่พักร่วมบ้านหรือร่วมห้องพัก จำนวน 23 ราย และติดในครอบครัวที่ป่วยก่อนหน้า 1 ราย ขณะนี้มีการสุ่มตรวจในแผนกอื่นเริ่มพบผู้ป่วย ซึ่งจะต้องกักตัวพนักงานทั้งหมดไว้ในโรงงาน ไม่ให้กระจายตัวออกมาข้างนอกเพื่อไม่ให้เกิดการระบาดมากขึ้น
อย่างไรก็ตามในวันนี้ นายอมรเทพ อ่วมมีเพียร ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหินร่วมกับ Starbucks และร้านอาหารภายในศูนย์การค้า ได้นำอาหารและเครื่องดื่ม ร่วมสนับสนุนและเสริมพลังให้ทีมบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ในการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 วันแรกให้กับพี่น้อง ประชาชน ที่โรงพยาบาลหัวหินด้วย
