ชาวหัวหินห่วงน้ำเสียและขยะติดเชื้อ จากแคมป์คนงานติดโควิด-19 หวั่นปนเปื้อนกระทบชุมชน ด้านเทศบาลเมืองหัวหิน เร่งพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไปตามถนนเส้นทางเข้าออก สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
วันที่ 28 กรกฏาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงงานว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบแคมป์คนงานก่อสร้างของบริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) ซอยหัวหิน 94 แสดงความวิตกกังวล หลังจากพบว่ามีแรงงานชาวเมียนมาและกัมพูชา จำนวน 181 คน จาก 264 คน ติดเชื้อโควิด-19 กลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่กลางเมืองหัวหิน
แม้ว่าจะมีคำสั่งให้ปิดแคมป์ชั่วคราวมาหลายวัน และล่าสุดนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ลงนามในคำสั่งจังหวัดที่ 7502/256 เรื่อง ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ห้ามมิให้แรงงานออกจากสถานที่และไม่ให้เคลื่อนย้ายแรงงานออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด
นายธงชัย เพชรสงคราม สมาชิกสภาพเทศบาลเมืองหัวหิน ให้ข้อมูลว่า ชาวบ้านจำนวนมากต่างวิตกกังวลต่อการแพร่เชื้อสู่ชุมชน กรณีแคมป์คนงานติดเชื้อโควิด ซึ่งตนเองได้แจ้งนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ทราบพร้อมกับประสานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ
ในเบื้องต้นได้นำรถสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ออกฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไปตามถนน เส้นทางเข้าออกแคมป์คนงาน และซอยต่างๆ ทั้งซอยแม่เก็บ 5 ซอยหัวหิน 94 ซอยหัวหิน 88 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
ส่วนกรณีการปล่อยน้ำเสียจากด้านในออกมาด้านนอกเพื่อลงท่อระบายน้ำเทศบาล ชาวบ้านกังวลเรื่องการป่นเปื้อน เนื่องจากด้านในเป็นผู้ติดเชื้อ ซึ่งหน่วยงานจะเร่งวางแผนบริหารจัดการน้ำเสียก่อนเข้าสู่ระบบ รวมทั้งขยะติดเชื้อจากแคมป์คนงานดังกล่าว จะต้องกำจัดอย่างถูกวิธีไม่ให้กระทบกับประชาชน และเกิดความปลอดภัยสูงสุด
นายพรศักดิ์ แสงยี่ พ่อค้าร้านอาหารตามสั่ง กล่าวว่า พอมีข่าวคนงานติดโควิด ทำให้ลูกค้าหายที่ร้านหายไปครึ่งต่อครึ่ง เพราะร้านเราอยู่ใกล้ ลูกค้าคนอื่นกลัว อยากฝากดูแลแรงงานที่ติดเชื้อให้ดี อย่างให้ออกมาด้านนอกเพราะจะทำให้ชาวบ้านคนอื่นติดเชื้อไปด้วย ตอนนี้เรื่องโควิดที่กำลังระบาดเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
ด้านนายพิพัฒน์ เอี่ยมวิลัย ร้ายขายต้นไม้ปากซอยแม่เก็บ 5 กล่าวว่า แคมป์ดังกล่าว มีรถสองแถวสีเขียวรับส่งคนงานทุกวัน และมีคนงานบางส่วนปั่นจักรยาน เดินผ่านหน้าร้าน เพราะเป็นเส้นทางไปสถานที่ก่อสร้างคอนโดที่ซอยหัวหิน 71 ยอมรับว่าวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาด เพราะในพื้นที่ดังกล่าว มีบ้านพัก ร้านอาหาร ฯลฯ เป็นชุมชนใหญ่ อยากให้หน่วยงานสาธารณสุขเข้ามาตรวจสอบ ส่วนตัวเองจะพยายามป้องกันตัวเองให้รัดกุมมากที่สุด
ทางด้านนางสาวจันทร์ทิพย์ เมี่ยงยา แม่ค้าตลาดนัดบ่อนไก่ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม่ค้าทุกคนป้องกันตัวอย่างเต็มที่ เพราะต้องเจอคนเยอะ แม้จะรู้สึกกลัวแต่ต้องขายของหารายได้เลี้ยงครอบครัว เวลาลูกค้าจ่ายเงินจะใช้เจลล้างมือ ส่วนคนงานในแคมป์ดังกล่าวมาซื้อของที่ตลาดหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ทำได้เพียงป้องกันตัวอย่างเต็มที่