เป็นข่าว » “วราวุธ” เสียใจเด็กวัย 9 ปี เสียชีวิตจากพิษแมงกะพรุนกล่อง สั่งป้องกันเป็นวาระเร่งด่วน “กรมทะเล” เสริมกำลังลาดตระเวน

“วราวุธ” เสียใจเด็กวัย 9 ปี เสียชีวิตจากพิษแมงกะพรุนกล่อง สั่งป้องกันเป็นวาระเร่งด่วน “กรมทะเล” เสริมกำลังลาดตระเวน

29 สิงหาคม 2021
1423   0

“วราวุธ” เสียใจเด็กวัย 9 ปี เสียชีวิตจากพิษแมงกะพรุนกล่อง สั่งป้องกันเป็นวาระเร่งด่วน “กรมทะเล” เสริมกำลังลาดตระเวนเกาะพะงัน เตือนเล่นน้ำในแนวทุ่นปลอดภัย

กรณีเด็กชายวัย 9 ปี ชาวอิสราเอล เสียชีวิตจากการสัมผัสและได้รับพิษจากแมงกะพรุนกล่อง เมื่อค่ำวันที่ 28 สิงหาคม 2564 บริเวณหาดริ้น เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แม้หลายฝ่ายได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลพะงันอินเตอร์เนชันแนล แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงความห่วงใยกับประชาชนและนักท่องเที่ยว อีกทั้ง ได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมกันคิดและวางแผนระยะยาวให้เป็นระบบและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เร่งเสริมกำลังลาดตระเวนรอบเกาะพะงัน ประชาสัมพันธ์ และสนับสนุนอุปกรณ์ปฐมพยาบาลในพื้นที่สำคัญทันที

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากหน่วยงานในพื้นที่กรณีเด็กชายวัย 9 ปี ชาวอิสราเอล ลงเล่นน้ำบริเวณหาดริ้น เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งออกเล่นน้ำนอกแนวตาข่ายกั้นแมงกะพรุน สัมผัสและได้รับพิษจากแมงกะพรุนกล่องจนเสียชีวิต แม้จะพยายามปฐมพยาบาลและเร่งนำส่งโรงพยาบาลแต่ก็ไม่อาจยื้อชีวิตไว้ได้

ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของเด็กชายรายดังกล่าว และเป็นห่วงนักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้พยายามประชาสัมพันธ์ เฝ้าระวัง และประสานความร่วมมือกับสถานพยาบาลในการจัดตั้งจุดปฐมพยาบาลในพื้นที่สำคัญ ซึ่งครั้งนี้ อาจเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก ซึ่งจำเป็นต้องอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิดของผู้ใหญ่

อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ระดมเจ้าหน้าที่ นักวิชาการ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจการกระจายตัวของฝูงแมงกระพรุนกล่องในพื้นที่เกาะพะงันและพื้นที่อื่นที่พบแมงกะพรุนพิษประจำ รวมถึง ติดตั้งอุปกรณ์เสาน้ำส้มสายชูในทุกพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ และให้เร่งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ระวังเป็นพิเศษ

โดยตนได้มอบให้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งให้ทุกหน่วยงานร่วมกันคิดหารูปแบบการป้องกันและแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว ทั้งนี้ หากพบผู้ที่สัมผัสหรือได้รับพิษจากแมงกะพรุนกล่องให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ในบริเวณนั้น และให้เร่งประสานสายด่วนศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หมายเลข 1669 เพื่อให้การช่วยเหลือโดยด่วน ต่อไป นายวราวุธ กล่าว

นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า ปกติแล้วแมงกะพรุนกล่องสามารถพบได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน พบได้ทั้งปี แต่จะพบมากช่วงเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม ซึ่งพิษของแมงกะพรุนกล่องจะมีผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด หากได้รับพิษมากจะทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ภายใน 2-5 นาที และมีผลต่อระบบประสาท ทำให้หมดสติ อีกทั้ง ยังมีผลต่อผิวหนังทำให้เป็นรอยไหม้และเกิดแผลเป็น

จึงขอความร่วมมือทุกสถานประกอบการเตือนนักท่องเที่ยว ไม่ควรเล่นน้ำช่วงเย็นและค่ำ โดยเฉพาะช่วงหลังฝนตก ควรใส่ชุดว่ายน้ำมิดชิดยาวแนบตัว และห้ามมิให้เล่นนอกทุ่นกั้นแมงกะพรุนโดยเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภูมิศาสตร์ของแต่ละหาดอาจไม่สามารถวางตาข่ายกั้นแมงกะพรุนได้หมด จึงขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของ Life guard หรือผู้ประกอบการ 

สำหรับเสาน้ำส้มสายชู ทางกรมได้ติดตั้งไว้ที่หาดสำคัญ 18  จังหวัด กว่า 700 จุด สำหรับ ชาวประมงควรแต่งกายมิดชิดเมื่อลงทะเล เพื่อความปลอดภัยในช่วงฤดูกาลที่มีแมงกะพรุนพิษ ทั้งนี้ หากสงสัยว่าสัมผัสพิษแมงกะพรุนพิษให้ราดด้วยน้ำส้มสายชูทันที ห้ามราดด้วยน้ำเปล่า ห้ามเอาทรายถู เพราะอาจจะทำให้เพิ่มการกระจายของพิษได้ หากหมดสติให้รีบทำการปั๊มหัวใจและนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการหน่วยงานในพื้นที่เสริมกำลังลาดตระเวนและเร่งประสานโรงพยาบาลเกาะพะงันประกาศเตือนทุกพื้นที่บริเวณเกาะพะงัน และเตรียมความพร้อมในการช่วยชีวิตผู้ที่สัมผัสและได้รับพิษจากแมงกะพรุนกล่อง ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่าสามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติ แต่ขอให้เพิ่มความระมัดระวังและอย่าออกนอกพื้นที่ตาข่ายกั้น นอกจากนี้ ตนได้ประสานไปยังนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสั่งการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์และดูแลนักท่องเที่ยวด้วยแล้ว ซึ่งกรมจะขยายผลไปยังพื้นที่อื่นทั่วประเทศด้วย ต่อไป นายโสภณ กล่าว