กระท่อมพันธุ์ก้านแดงประจวบฯ ส่งโรงงาน อัพราคาพุ่งพรวด จากต้นละ 100-200 บาท เป็น 450 บาท หลังพบมีบริษัทข้ามชาติ-นักการเมือง แห่จองต้นพันธุ์ซื้อยกสวน ด้านเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ยาเสพติด เผย กระทรวงสาธารณสุขยังไม่มีหนังสือสั่งการเพื่อควบคุมหรือวางหลักเกณฑ์ในการเฝ้าระวัง คาดว่าจะต้องรอร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อมออกมาบังคับใช้ก่อน
วันที่ 29 สิงหาคม 2564 นางวิวรรณดา พูลธรัตน์ อายุ 54 ปี เจ้าของแปลงปลูกกระท่อมพันธุ์ก้านแดง ญาติ ร.ต.อ.พเยาว์ พูลธรัตน์ อดีต สส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ นักชกเหรียญทองแดงโอลิมปิคคนแรกของไทย อยู่หมู่ 4 บ้านห้วยเกรียบ ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ไทยปลดล็อกกฎหมายยาเสพติด นำพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 เป็นพืชควบคุม เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
ส่งผลให้ต้นกระท่อมพันธุ์ก้านแดง ซึ่งได้เพาะจากเมล็ดไว้ มีความสูงเฉลี่ยต้นละ 30-50 เซนติเมตร ราคาเดิมต้นละ 100-200 บาท ล่าสุดปรับราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นราคาต้นละ 450 บาท โดยที่สวนของตนเอง มีเหลือเพียง 150 ต้นเท่านั้น
โดยขณะนี้ตลาดมีความต้องการสูงมาก แต่กำลังการผลิตยังไม่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นกล้าขนาดเล็กต้องรอการบำรุง ให้มีขนาดใหญ่ได้มาตรฐานก่อนจำหน่าย สำหรับผู้สนใจปลูกต้นกระท่อมส่วนใหญ่ต้องการปลูกกระท่อมพันธุ์ก้านแดง เพื่อส่งขายโรงงานอุตสาหกรรมได้ ขณะที่ผู้ผลิตต้นพันธุ์แปลงใหญ่ ขนาด 3–4 หมื่นต้นต่อรายใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.ชุมพร นั้น เท่าที่ทราบข้อมูลขณะนี้พบว่ามีฐานลูกค้าทั้งรัฐมนตรี นักการเมืองระดับชาติ นักการเมืองท้องถิ่น รวมทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติในเครือ ซีพี สั่งจองซื้อไว้ทั้งหมดแล้ว
ทางด้าน นางมณฑา ขนเม่น พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ยาเสพติด จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนที่จะมีการปลดล๊อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดนั้น ราคากระท่อมผงที่ลักลอบเข้าไทย และมีการลักลอบขายในแพปลาและแคมป์คนงานก่อสร้าง
ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป็นแรงงานต่างด้าวนั้น มีราคากิโลกรัมละ 800–1,500 บาท แต่ปัจจุบันราคาในตลาดเท่าที่ตรวจสอบพบ ราคายังสูงต่อเนื่องไม่ได้ลดลง เพราะมีการปิดด่านชายแดนที่จุดผ่อนปรนด่านสิงข การนำเข้าถือว่าผิดกฎหมายศุลกากร กระท่อมผงที่กลุ่มเป้าหมายต้องการบริโภค จึงมีปัญหาในการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับกระท่อมผงนั้น ก่อนหน้านี้ถือเป็นยาเสพติดยอดนิยมของแรงงานต่างด้าว ที่มักจะหามาชงดื่มกับกาแฟ เหล้า เบียร์ และผสมในเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เพื่อเพิ่มการออกฤทธิ์ให้มากขึ้น แต่หลังจากปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขยังไม่มีหนังสือสั่งการเพื่อควบคุมหรือวางหลักเกณฑ์ในการเฝ้าระวัง คาดว่าจะต้องรอร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อมออกมาบังคับใช้ก่อน