รมว.ท่องเที่ยวฯ พร้อมสนับสนุนแผนเปิดเมืองหัวหิน 1 ต.ค.นี้ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดส แบบไม่กักตัว เตรียมเสนอ ศบค.จัดสรรวัคซีนโควิดเพิ่มให้ จ.ประจวบฯ เพิ่ม 110,000 โดส สร้างภูมิคุ้มกัน คาดมีท่องเที่ยวประมาณ 1 แสนคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 1,200 ล้านบาท
วันที่ 5 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมนเรศดำริห์ เทศบาลเมืองหัวหิน อ.หัวหินจ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงข่าวความคืบหน้าโครงการหัวหิน รีชาร์จ และแนวทางการเปิดเทศบาลเมืองหัวหินต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว
โดยมี นายยุทธศักดิ์ ศุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ , นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ , นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน และ นายกรด โรจนเสถียร ประธานโครงการหัวหิน รีชาร์จ ร่วมแถลงข่าว
ท่ามกลางตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน อาทิ นางสาวแสงจันทร์ แก้วปทุมรัศมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ , น.ส.วาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ , ททท.ประจวบคีรีขันธ์ , ตำรวจท่องเที่ยว , ท่าอากาศยานหัวหิน ฯลฯ ร่วมการแถลงข่าว ทั้งนี้มีการถ่ายทอดสดการแถลงข่าวออนไลน์ผ่านระบบซูมเพื่อเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล โดยพบว่าในช่วงเวลาการแถลงข่าวมีสื่มมวลชนร่วมรับฟังเกือบ 100 คน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สำหรับแผนการเปิดพื้นที่นำร่องเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในระยะที่ 2 ที่จะเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้ กำหนดพื้นที่ไว้ 5 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร , เชียงใหม่ , ประจวบคีรีขันธ์ , เพชรบุรี และ ชลบุรี
หลังจากที่รัฐบาลได้ร่วมกับภาคเอกชน เปิดพื้นที่ไปแล้ว 4 แห่งได้แก่ ได้แก่ โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จ.ภูเก็ต , เกาะสมุย , เกาะพะงัน และเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี , เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ จ.กระบี่ และ เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ เขาหลัก จ.พังงา
โดยโครงการดังกล่าวกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการนำเสนอแผนการท่องเที่ยวของแต่ละพื้นที่ให้ ศบค.พิจารณา เพื่อจัดสรรวัคซีนมาให้กับจังหวัดเพิ่มเติม สำหรับฉีดให้ครอบคลุมประชากรตามเป้าหมาย โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมโยงกันและการท่องเที่ยวที่คล้ายกัน จึงเห็นว่าควรจะมีประชาชนได้รับวัคซีนในภาพรวมของแต่ละจังหวัดไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 เพื่อให้มีความปลอดภัยมากที่สุด
ทางด้าน นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ภายในเดือนกันยายนนี้ จะมีประชาชนใน อ.หัวหิน ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม เกินกว่าร้อยละ 70 ของประชากรที่มีทั้งหมด 90,564 คน ซึ่งทางเทศบาลเมืองหัวหิน ได้สนับสนุนวัคซีนฉีดประชาชนจำนวน 55,000 โดส ทำให้การฉีดวัคซีนครอบคลุมพื้นที่ได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของโครงการหัวหิน รีชาร์จ
และหากได้รับการสนับสนุนวัคซีนเพิ่มอีก 110,000 โดส จะทำให้มีประชาชนได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากรทั้งจังหวัด ซึ่งจะส่งผลดีในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้เร็วยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ ได้รณรงค์ให้ผู้ประกอบการร่วมกันสร้างมาตรฐาน SHA และ SHA+ เพื่อรองรับการเปิดเมืองท่องเที่ยว ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด จะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ได้
นายยุทธศักดิ์ ศุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวด้วยว่า สำหรับ ททท.นั้น ได้มีการประเมินความพร้อมของแต่ละพื้นที่ในการสนับสนุนการเปิดเมืองเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนโควิดให้คนในพื้นที่อย่างน้อยร้อยละ 70 โดยให้ยึดขั้นตอนปฏิบัติมาตรฐานของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นเกณฑ์หลัก
โดยจากการหารือร่วมกับภาคเอกชนในพื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 5 จังหวัดในระยะที่ 2 นั้น ภาคเอกชนส่วนใหญ่มีความพร้อมและยืนยันในการเดินหน้าเปิดให้ได้ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ตามที่กำหนดไว้ ซึ่ง ททท.เองพร้อมที่จะร่วมผลักดันให้เปิดได้ตามแผนที่วางไว้เช่นเดียวกัน
สำหรับรายละเอียดแผนการดำเนินงานอยู่ระหว่างการจัดทำ ในส่วนของ จ.ประจวบฯ มีแนวทางการจัดการพื้นที่ปลอดภัยเพื่อการท่องเที่ยว 5 แผน ได้แก่ แผนการกระจายวัคซีนและสุขอนามัยเพื่อความปลอดภัยของคนในพื้นที่ แผนพัฒนาเมืองระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อตอบสนองพฤติกรรมความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ แผนการตลาดและการสื่อการตลาด แผนเผชิญเหตุและแผนบริหารความเสี่ยง และแผนการสร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่และนอกพื้นที่ยอมรับการเปิดเมือง
ส่วน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวเพิ่มเติมว่า เทศบาลเมืองหัวหิน ได้สนับสนุนวัคซีน 55,000 โดส เพื่อฉีดสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนและบุคลากรภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน มีการจัดสรรงบประมาณจัดซื้อชุดตรวจเอทีเค ไปแล้ว 3,000 ชุด เพื่อสุ่มตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อในสถานที่เสี่ยงต่างๆ เป็นระยะ เช่น ตลาด แหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ
ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดในพื้นที่ และการให้ความรู้แก่ประชาชน มีความเข้าใจเกี่ยวกับสุขลักษณะที่ดี การเว้นระยะห่าง การหมั่นทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายในสถานที่ทำงานและบ้าน ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไป กับการดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่
นายกรด โรจนเสถียร ประธานโครงการหัวหิน รีชาร์จ ภาคเอกชน กล่าวย้ำว่า อ.หัวหิน เป็นเพียงพื้นที่นำร่องของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ โดยไม่ต้องกักตัว โดยสามารถเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ควบคุม 2 ตำบล ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน คือตำบลหัวหิน และตำบลหนองแก พื้นที่ 86.36 ตารางกิโลเมตร
สิ่งสำคัญคือ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ประสงค์ เดินทางมาท่องเที่ยวในโครงการนั้น ต้องมีใบรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทาง ได้รับวัคซีนโควิดครบโดสแล้ว อย่างน้อย 14 วัน ก่อนการเดินทางแต่ไม่เกิน 1 ปี ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด ด้วยวิธี RT-PCR เมื่อมาถึงสนามบิน
เดินทางด้วยยานพาหนะที่ได้มาตรฐาน SHA และ SHA+ เข้าพักในโรงแรมที่พักที่ได้มาตรฐาน SHA และ SHA+ เช่นเดียวกัน จากนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องรอผลตรวจในห้องพัก หากผลเป็นลบสามารถเดินทางท่องเที่ยวในเขตเทศบาลเมืองหัวหินได้
หากประสงค์จะเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ ต้องอยู่พำนักในเขตเทศบาลเมืองหัวหินอย่างน้อย 14 วันและผ่านการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ในวันที่ 6-7 และวันที่ 12-13 ซ้ำอีก 2 ครั้ง โดยต้องมีผลตรวจเป็นลบ
จากนี้จะได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว จัดกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อเป็นจุดขายดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดระยะเวลาที่เดินทางมาหัวหิน ในฐานะประธานประธานโครงการหัวหิน รีชาร์จ มั่นใจว่าหากเปิดเมืองหัวหินได้ ในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ผ่านเกณฑ์ของโครงการ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประมาณ 1 แสนคน และจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 1,200 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองหัวหิน ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ในพื้นที่ฟื้นตัวได้อีกครั้ง
