เป็นข่าว » แม่ค้าหมูหัวหินร้องทนายเดชา ช่วยคลี่คลายคดีลูกชาย หลังถูกจับคดียาเสพติด สุดท้ายพิการ7ปี

แม่ค้าหมูหัวหินร้องทนายเดชา ช่วยคลี่คลายคดีลูกชาย หลังถูกจับคดียาเสพติด สุดท้ายพิการ7ปี

18 กันยายน 2021
1593   0

แม่ค้าหมูหัวหินร้องทนายเดชา ช่วยคลี่คลายคดีลูกชาย หลังถูกจับคดียาเสพติด ตำรวจหัวหินอ้างกระโดดรถหนีทั้งที่ใส่กุญแจมือ กลายเป็นคนพิการนาน 7 ปี คดีไม่คืบหน้า

วันที่ 18 กันยายน 2564 นางจารี ชิ้นพงค์ อายุ 60 ปี แม่ค้าขายหมู ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ครอบครัวได้นำเอกสารหลักฐาน ร้องเรียนกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ให้ช่วยคลี่คลายคดีลูกชายที่ต้องทนทุกข์ทรมานกลายเป็นคนพิการมานาน 7 ปี

หลังจากเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2558 ลูกชาย ชื่อนายแดนไท หรือโจ ขณะเกิดเหตุอายุ 34 ปี ปัจจุบันอายุ 41 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน และชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จับกุบ โดยได้นำตัวลูกชาย มาที่บ้านพักเลขที่ 9/76 ถนนคันคลองชลประทาน เขตเทศบาลเมืองหัวหิน ช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม พร้อมแจ้งให้ครอบครัวทราบว่า ลูกชายถูกจับคดียาเสพติดและจะขอตรวจค้นภายในบ้านพักด้วย

เมื่อทราบดังกล่าว จึงบอกกับตำรวจไปว่า หากลูกชายทำผิดขอให้จับตัวที่สถานีตำรวจ แต่อย่าเอาไปซ้อม และได้อนุญาตให้ตำรวจเข้ามาค้นทั้งที่ไม่มีหมายมาแสดง ก่อนกลับตนเห็นลูกชายถูกใส่กุญแจมือนั่งเบาะหลังในรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน มีตำรวจ 2 คนนั่งคุมตัวอยู่  

จากนั้นประมาณ 2 ชั่วโมง ตำรวจโทรศัพท์กลับมาแจ้งว่า ลูกชายได้กระโดดรถเพื่อหลบหนีทำให้ได้รับบาดเจ็บ โดยได้นำส่งโรงพยาบาลหัวหินแล้ว เมื่อครอบครัวไปถึงโรงพยาบาล ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่า แพทย์ต้องผ่าตัดเนื่องจากสมองบวม อาการสาหัส 

ทำให้เกิดความสงสัยว่า ลูกชายจะกระโดดหนีได้อย่างไร เพราะถูกใส่กุญแจมือและมีตำรวจนั่งคุมตัวไปด้วย จากนั้นจึงได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ ไปร้องเรียนตามหน่วยงาน ทั้งมณฑลทหารบกที่ 15 ที่ จ.เพชรบุรี , สำนักตำรวจแห่งชาติ , สำนักงานคณะกรรมการ ปปท. และ ศูนย์ดำรงธรรม แต่เรื่องเงียบไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ที่จะให้ความเป็นธรรมกับครอบครัว

นางจารี กล่าวอีกว่า ปัจจุบันลูกชายมีสภาพเป็นคนพิการ ครอบครัวต้องช่วยกันดูแลเกือบ 24 ชั่วโมง ทั้งป้อนอาหาร ช่วยพยุงเพื่อทำกายภาพบำบัด พบแพทย์ทุกเดือน แต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายราว 5 -7 หมื่นบาท ทั้งค่ายา ค่าจ้างคนดูแล

โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เคยช่วยเหลือเยียวยา ส่วนรถยนต์กระบะ ทรัพย์สินบางส่วนของลูกชายนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำมาคืนให้ แต่ไม่เคยเห็นเอกสารหลักฐาน โดยเฉพาะบันทึกจับกุม หรือจำนวนยาเสพติด ซึ่งตนยอมรับว่าบุตรชายอาจเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เสพยาจริง เมื่อถูกจับกุมครอบครัวยินดีให้ดำเนินดคีตามกฎหมาย แต่ไม่ใช่เกิดเหตุร้ายจนพิการดังกล่าวโดยที่ไม่มีการชี้แจงข้อเท็จจริง หรือเยียวยาใด ๆ กับครอบครัวเลย

ก่อนหน้านี้ ตำรวจชุดจับกุมส่งคนมาเคลียร์กับครอบครัว 2 ครั้ง ระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับหลาน 3 คน แต่เงียบหายไป สาเหตุที่ต้องออกมาทวงถามความยุติธรรมเพราะส่วนตัวอายุมากขึ้นทุกวัน หากเป็นอะไรไปใครจะมาดูแลลูกชายและหลาน จึงหวังว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะตรวจสอบข้อเท็จจริงและเยียวยาความเสียหายกับครอบครัวของตนด้วย

ทางด้าน พ.ต.อ.ไพฑูล พรมเขียน ผกก.สภ.หัวหิน กล่าวเบื้องต้นว่า ที่ผ่านมาเดินทางมารับตำแหน่งเมื่อปี 2562 ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน ค้นหาเอกสารหลักฐานคดีของนายโจ ในปี 2558 เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว