เป็นข่าว » จับ 58 แรงงานเถื่อนเมียนมา ทะลักเข้าไทย พร้อมรวบคนขับรถตู้รับแรงงานขึ้นรถเตรียมส่ง จ.สมุทรสาคร

จับ 58 แรงงานเถื่อนเมียนมา ทะลักเข้าไทย พร้อมรวบคนขับรถตู้รับแรงงานขึ้นรถเตรียมส่ง จ.สมุทรสาคร

4 ตุลาคม 2021
1355   0

จับ 58 แรงงานเถื่อนเมียนมา ทะลักเข้าไทย พร้อมรวบคนขับรถตู้รับแรงงานขึ้นรถเตรียมส่ง จ.สมุทรสาคร ด้านหน่วยงานความมั่นคงคุมเข้มชายแดน หลังมีข่าวลือแรงงานเถือนรอข้ามแดนนับพันราย

วันที่ 4 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ สนธิกำลังร่วมกับ ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ ชรบ. และ เจ้าหน้าที่ อส. ควบคุมตัวผู้ต้องหาชาวเมียนมา จำนวน 58 ราย ไปกักตัวที่ศูนย์คัดแยกและช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ประจวบคีรีขันธ์ ด้านหลัง สภ.เมืองประจวบ เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วนำตัวไปกักอีก 14 วัน ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย


ทั้งนี้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ได้สนธิกำลังร่วมกับผู้ใหญ่บ้านบ้านเนินแก้ว หมู่ 5 ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จับกุมกลุ่มแรงงานชาวเมียนมา ลักลอบเดินเท้าข้ามชายแดนไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติ ช่องเขาหลัก หมู่ 5 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดรถตู้รับจ้างไม่ประจำทาง สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 36-0036 นนทบุรี พร้อมควบคุมตัวคนนำพา ประกอบด้วยนายพิมล เลขานุกิจ อายุ 56 ปี ชาว จ.นนทบุรี นายชูชาติ แซ่หลี อายุ 23 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ นำแรงงานชาวเมียนมา 7 ราย จากชายแดน นำส่ง จ.สมุทรสาคร

โดยระหว่างกำลังตรวจสอบผู้ต้องหาอยู่นั้น เจ้าหน้าที่พบรถตู้อีก 1 คัน ซึ่งถูกเรียกตรวจแต่อาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอ ขับรถหลบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ลาดตระเวนพื้นที่โดยรอบ ทำให้ควบคุมตัวแรงงานชาวเมียนมาชายหญิง ได้เพิ่มอีก 17 ราย รวมเป็น 24 ราย ขณะกำลังซ่อนตัวอยู่ในสวนปาล์ม สวนยางใกล้ชายแดน เพื่อรอนายหน้ามารับตัว


โดยมีรายงานว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวแรงงานชาวเมียนมา ได้ 34 ราย ขณะลักลอบข้ามแดน ที่ช่องทางธรรมชาติช่องเขาหลัก โดยถูกคุมตัวไปกักไว้ที่ สภ.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯ ซึ่งแรงงานเถื่อนทั้งหมด 58 ราย เป็นชาย 19 ราย หญิง 39 ราย อายุระหว่าง 18 ถึง 30 ปี

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาสารภาพว่า เดินทางมาจากหลายจังหวัดในประเทศเมียนมาร์ ก่อนมาพบกันที่บ้านมูด่อง ห่างจากด่านสิงขร 3 กิโลเมตร จากนั้นเดินเท้าข้ามแดนมายังฝั่งไทยตามช่องทางธรรมชาติเพื่อรอนายหน้ามารับตัว

โดยระบุว่าจะไปทำงานในโรงงานสับปะรด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่ส่วนใหญ่ไปทำงานที่โรงงานปลากระป๋อง และแพกุ้งที่ จ.สมุทรสาคร โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายให้นายหน้าในการเดินทางถึงที่หมาย ประมาณ 16,000 -18,000 บาทต่อคน


นายพิมล เลขานุกิจ อายุ 56 ปี คนขับรถตู้ ให้ข้อมูลว่า ขับรถตู้รับจ้างมาจาก จ.ชุมพร เพื่อกลับบ้าน โดยระบบรับงานออนไลน์ได้แจ้งงานมาให้ตนพร้อมส่งตำแหน่ง จีพีเอส ให้รับผู้โดยสาร

โดยระบุว่าเป็นแรงงานทำไร่สับปะรด จึงเข้าไปรับตามพิกัด เพื่อไปส่งที่ จ.สมุทรสาคร ได้ค่าจ้าง หัวละ 1,000 บาท เพิ่งรับเป็นครั้งแรก โดยตนรับชาวเมียนมาขึ้นรถมาแค่ 7 คน ส่วนรถตู้อีกคัน ที่มาด้วยกันได้ขับหลบหนีได้


ทางด้านนายคณพศ สายสกล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านเนินแก้ว กล่าวด้วยว่า ก่อนจับกุมแรงงานที่ลักลอบข้ามแดนได้นั้น มีสายข่าวระบุว่า จะมีชาวเมียนมาจำนวนมากลักลอบข้ามแดน จึงนำกำลัง ชรบ.ตรวจสอบพื้นที่ พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงหน่วยต่าง ๆ แรงงานทั้งหมดเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน

โดยคาดว่าน่าจะมีแรงงานที่กำลังลักลอบข้ามชายแดน และรอจังหวะที่นายหน้าจะมารับอีกจำนวนมาก เบื้องต้นมีแรงงานส่วนหนึ่งข้ามแดนมาแล้วเนื่องจากมีชาวบ้านพบเห็นบุคคลแปลกหน้า แต่ยังไม่พบตัว

มีรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหาร ตชด.และหน่วยงานความมั่นคง ต่างเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบบริเวณช่องทางธรรมชาติ ที่อาจจะมีการลักลอบผ่านแดนประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่ามีแรงงานที่รอเดินเท้าเข้าไทยอีกนับพันคนเพื่อมาหางานทำ

โดยพบว่ามีแรงงานเถื่อนที่เคยถูกจับกุมและถูกผลักดันกลับไป แต่ยังลักลอบกลับเข้ามาเพื่อไปทำงานในโรงงานสับปะรด ซึ่งมีความต้องการแรงงานสูงอย่างมากในสถานการณ์โควิด-19