ตำรวจเมืองประจวบคีรีขันธ์ ต้องขอข้าวก้นบาตรพระจาก 2 วัดดัง เลี้ยงบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองกักตัว 14วัน เหตุเพราะบุคคลดังกล่าว ยังไม่มีสถานะเป็นผู้ต้องหาจึงไม่สามารถใช้งบประมาณของทางราชการ สำหรับจัดเลี้ยงอาหาร 3 มื้อได้
วันที่ 14 ตุลาคม 2564 พ.ต.อ.เสมอ อยู่สำราญ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานสกัดกั้นบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย จำนวน 21 คน เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา จากนั้นได้ตรวจหาเชื้อโควิด พบผู้ติดเชื้อ 5 คน ส่งรักษาตัวที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์
ส่วนที่เหลือต้องกักตัว 14 วันภายในห้องขังที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรอตรวจหาเชื้อโควิดอีกครั้งก่อนส่งให้ ตม.ผลักดันออกนอกประเทศ แต่เนื่องจากสถานที่กักตัวตัวแรงงานหลบหนีเข้าเมือง หรือ OQ ที่กองร้อย ตชด. 146 ด่านสิงขร ต.คลองวาฬ ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับกักตัวบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ตามแนวทางที่หลายหน่วยงานภาครัฐ ได้กำหนดร่วมกันนั้น
ขณะนี้มีการกักตัวบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง เพื่อหวังมาทำงานเป็นแรงงานเถื่อนนั้น มีการควบคุมตัวอยู่จำนวนมากเกินกว่าที่จะรับผู้กักตัวเพิ่มขึ้นได้
สำหรับบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองทั้งหมด ขณะนี้ต้องยอมรับว่า ยังไม่มีสถานะเป็นผู้ต้องหาจึงไม่สามารถใช้งบประมาณของทางราชการ สำหรับจัดเลี้ยงอาหาร 3 มื้อได้ทาง สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
จึงต้องแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยการขอความอนุเคราะห์อาหารที่เหลือจากการบิณฑบาตของวัดธรรมิการามวิหาร พระอารามหลวง และวัดเกาะหลัก พระอารามหลวง ซึ่งเป็น 2 วัดชื่อดังในอำเภอเมืองประจวบฯ นำมาจัดเลี้ยงบุคคลต่างด้าวที่กักตัวไว้ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสวมชุด PPE นำน้ำและอาหารไปส่งให้ระหว่างกักตัวในห้องขัง ครบทั้ง 3 มื้อ
ทั้งนี้ยอมรับว่า หากตรวจพบมีการลักลอบเข้าเมืองและมีการจับกุมเพิ่มอีก ห้องขังสำหรับกักตัวชั่วคราวอาจไม่เพียงพอ และจะต้องดำเนินการเรื่องอาหารในลักษณะดังกล่าวจนกว่าส่วนกลางจะมีนโยบายเพิ่มเติม หรือสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยปัจจุบันยังไม่มีข้อยุติจากการใช้งบประมาณด้านอื่นเข้ามาสนับสนุน ขณะที่หน่วยงานด้านการข่าวชายแดนแจ้งว่ายังแรงงานเมียนร์มาฝั่งตรงข้ามกับด่านสิงขรรอเดินเท้าเข้าเมืองอีกจำนวนมาก เพื่อรอนายหน้ามารับไปทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม