อดีตลูกจ้างบ้านประจวบโชค เข้ามอบตัวกับตำรวจ ปฏิเสธ 3 ข้อหาโกงสิทธิเราชนะ ผู้ด้อยโอกาส 153 คน เสียหาย 6.4 แสน ด้านธนาคารกรุงไทย เปลี่ยนรหัส 6 หลัก ที่ใช้เหมือนกัน 123456 เป็นเลขใหม่ พร้อมแสกนหน้าผู้ด้อยโอกาสทั้ง 220 คนใหม่ด้วย
วันที่ 14 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ หรือ บ้านประจวบโชค ที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสกลุ่มเปราะบาง ผู้มีอาการทางจิตและประสาท ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวน้อย ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง
ภายหลังตรวจสอบพบว่า มีเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นลูกจ้างชั่วคราว นำเลขบัตรประชาชน 13 หลักและ รหัสผ่าน 6 หลักของผู้ด้อยโอกาส 153 ราย ไปสแกนแลกเงินสดในร้านค้าหลายพื้นที่ เข้าข่ายทุจริตงบประมาณของรัฐจากการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐในโครงการเราชนะ
ซึ่งเป็นสิทธิของกลุ่มเปราะบาง 2 งวดรวมรายละ 9,000 บาท พบมูลค่าความเสียหายจากการทุจริต 644,923 บาท แต่คดีไม่คืบหน้านั้น
ล่าสุด นายอิทธิพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ อดีตลูกจ้างชั่วคราว ผู้ดูแลอาคารที่พักชาย บ้านประจวบโชค ผู้ต้องหาคดีที่ 208/2564 ได้เข้าพบ ร.ต.อ.สุรนันท์ มีพันธ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.อ่าวน้อย เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
ตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานใช้บัตรอีเลคทรอนิคส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้ผู้อื่นไร้ประโยชน์ และฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น
ทั้งนี้นายอิทธิพล ได้การรับสารภาพว่า ทุจริตในการเบิกจ่ายจำนวน 21,000 บาท เท่านั้นและได้คืนเงินให้กับทางราชการแล้ว ส่วนกรณีการตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตอีก 153 คน วงเงินรวม 6.4 แสนบาท นั้นได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา หลังสอบปากคำเสร็จพนักงานสอบสวนสอบสวนได้ปล่อยตัวผู้ต้องหา ไม่ได้ควบคุมตัวไว้แต่อย่างใด
ด้าน ร.ต.อ.สุรนันท์ มีพันธ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งการให้เร่งรัดคดีเพื่อทำสำนวนส่งฟ้อง จากการทุจริตเงินสวัสดิการของผู้ด้อยโอกาสจำนวนมากที่บางรายมีอาการทางจิตและประสาทไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้และไม่มีญาติมาดูแล
หลังจากที่ผ่านมาคดีไม่คืบหน้านานกว่า 4 เดือน เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งบ้านประจวบโชคและสถาบันการเงินให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนและพยายามบ่ายเบี่ยง
แต่ที่ผ่านมาได้ขอสนับสนุนฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งผู้ใช้บัตร รหัสผ่าน รวมทั้งจำนวนร้านค้าจากสำนักงานเศรษฐกิจกิจการคลัง ทำให้ต้องใช้เวลารอเอกสารตอบกลับนานกว่า 3 เดือน
ขณะเดียวกัน นายมนตรี ปาน้อยนนท์ สส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า การทุจริตในสถานที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ขององค์กรและหน่วยตรวจสอบทุจริตในระดับจังหวัด ขณะที่ประชาชนไม่เชื่อว่าจะมีการกระทำของลูกจ้างเพียงรายเดียว
เหมือนคดีลูกจ้างสำนักงานจังหวัดโกง 40 ล้านบาท อ้างว่าไปเล่นพนันออนไลน์ ล่าสุดได้เร่งรัดให้ทีมงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ดูแลกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เร่งสะสางคดีดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษ
ด้านนางไพทิพย์ หนูพรม ผู้ปกครองสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า พบพิรุธลูกจ้างชั่วคราวทุจริตงบในลักษณะเดียวกันในร้านค้าหลายแห่ง แต่ช่วงแรกลูกจ้างนำหลักฐานของผู้ด้อยโอกาส 3 ราย ไปสแกนเพื่อแลกเงินสดในร้านค้าของตนเองที่ อ.ปราณบุรี ต่อมาเมื่อพบว่ามีการทุจริตนายอิทธิพล เจรจาขอชดใช้คืนค่าเสียหาย 21,000 บาท
มีรายงานว่า หลังจากพบพิรุธในระบบการเบิกจ่าย โดยเจ้าหน้าที่ประสานงานกับคอลเซนเตอร์ของธนาคารกรุงไทย ตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัตรประชาชนและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้ใช้บริการกลุ่มเปราะบาง พบว่ายอดเงินคงเหลือ ในบัตรประชาชนของผู้ใช้บริการไม่ตรงกับยอดเงินคงเหลือ จำนวน 153 ราย
มีรายชื่อร้านค้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ประกอบด้วยร้านค้าใน อ.ปราณบุรี อ.เมืองประจวบฯ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย ได้ดำเนินการเปลี่ยนรหัสการเข้าถึงสิทธิโครงการเราชนะ จากเดิมใช้รหัสเลข 6 หลักเหมือนกันทุกรายคือ “123456” เพื่อซื้อสินค้าตามวงเงิน โดยได้ดำเนินการสแกนใบหน้าให้กับผู้ใช้สิทธิใหม่ทั้ง 220 ราย เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสนำรหัสไปสวมสิทธิ