ผวจ.ประจวบฯ เรียกถกด่วนหน่วยงานความมั่นคงชายแดน หาข้อยุติกรณีไม่สามารถใช้งบประมาณของรัฐ จ่ายเป็นค่าอาหาร 3 มื้อจนต้องขอข้าวก้นบาตรพระ หลังแรงงานเถื่อนทะลักไม่หยุดกระทบศูนย์กักกัน โอ.คิว.กักเมียนมาแน่นเกินพิกัด เตรียมสำรวจพื้นที่แห่งใหม่ทั้งเป็น ศูนย์โอคิวแห่งที่ 2
วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสิงขร ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นายเสถียร เจริญเหรียญ ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ประธาน พร้อมด้วย นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธ์ รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์, พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบภ.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์, พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รอง ผอ.รมน.จังหวัดประจวบฯ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์,
พ.ต.อ.วิธิวัฒน์ ศรีทองจ้อย รอง ผบก.ภ.จว.ปข., พ.ต.อ.เสมอ อยู่สำราญ ผกก. สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์, พ.ต.อ.เจริญ ชนประเสริฐ ผกก.ฝ่ายงานสอบสวน ภ.จว.ประจวบ ฯ, ฝ่ายทหารหน่วยจงอางศึก, ฝ่ายปกครอง, สาธารณสุขจังหวัดฯ ตม.สิงขร และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องฯ
เข้าร่วมประชุมแก้ไขปัญหาบุคคลต่างด้าวลับลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมวิธีมาตรการการป้องกันฯ และเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
พ.ต.อ.เสมอ อยู่สำราญ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงชายแดนหารือเร่งด่วน เพื่อหาข้อยุติในการใช้งบประมาณของรัฐจ่ายเป็นค่าอาหาร 3 มื้อ กำหนดแนวทางที่ชัดเจน
กรณีที่ไม่สามารถนำแรงงานชาวเมียนมา กักตัว 14 วัน ภายในสถานที่กักตัวตัวแรงงานหลบหนีเข้าเมืองหรือ โอ.คิว. กองร้อย ตชด.ที่ 146 ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งกำหนดเป็นสถานที่กักตัวบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง หรือ แรงงานเถื่อน ตามแนวทางที่หลายหน่วยงานกำหนดร่วมกันได้นั้น
ทั้งนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่าในรอบระยะเวลาแค่ 15 วัน มีแรงงานชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองต่อเนื่อง ควบคุมตัวได้มากกว่า 100 คนแล้ว ส่งผลกระทบทำให้สถานที่กักตัวที่จัดเตรียมไว้เกินความจุ ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้เพียงแค่ 50 คน แต่ปัจจุบันมี 64 คน ส่งผลทำให้แออัด อีกทั้งบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองดังกล่าวยังพบมีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มด้วย
โดยบุคคลหลบหนีเข้าเมืองส่วนที่เหลือ ได้ถูกนำมาควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้แก้ไขปัญหาเรื่องงบประมาณเบื้องต้น อันเป็นการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมให้กับบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งอยู่ในช่วงกักตัวโควิด 14 วัน แต่ยังไม่มีสถานะเป็นผู้ต้องหา ด้วยการจัดเลี้ยงอาหารครบ 3 มื้อ โดยอาหารและน้ำบางส่วนได้รับบริจาคจากประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าวนำมาบริจาค
อีกทั้งอาหารบางส่วน มาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจใน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ด้วยกันเอง ช่วยกันสมทบเพื่อช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม เนื่องจากไม่สามารถเบิกจ่ายงบจากทางราชการได้ เพราะผู้ที่ถูกควบคุมตัวยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา จนกว่าจะพ้นระยะการกักตัว 14 วัน ทั้งนี้หากตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 จึงจะนำไปผลักดันกลับประเทศต้นทางได้
“นอกจากนั้น กรณีการควบคุมตัวบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจำนวนมากและประสบปัญหาเรื่องงบประมาณในการจัดเลี้ยงอาหารนั้น ทางหลวงพ่อเจ้าอาวาสจาก วัดเกาะหลักพระอารามหลวง และวัดธรรมิการามวรวิหาร 2วัดดังของเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้ทราบข่าว ท่านจึงเมตตามอบอาหารจากการบิณฑบาต และอาหารที่ญาติโยมนำมาถวายที่วัดจำนวนมาก ทั้งอาหารสดและอาหารแห้ง มามอบให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองดังกล่าวด้วยความเมตตาตามหลักมนุษยธรรมเช่นกัน” พ.ต.อ.เสมอ กล่าว
มีรายงานด้วยว่า หลังผู้บริหารระดับจังหวัดประชุมเคร่งเครียดนานกว่า 3 ชั่วโมง ถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา กรณีไม่สามารถใช้งบประมาณของรัฐจ่ายเป็นค่าอาหาร 3 มื้อได้นั้น ปรากฎว่ายังไร้ข้อสรุปที่ชัดเจน เนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานใดเป็นเจ้าภาพหลัก จึงต้องดำเนินการในรูปแบบเดิมไปพลางก่อน
อย่างไรก็ตามทางจังหวัดจะดำเนินการสำรวจพื้นที่หาสถานที่ที่มีความเหมาะสม เพื่อตั้งเป็น ศูนย์กักกัน โอ.คิว.แห่งใหม่ โดยเตรียมสำรวจวัดรัตนวิเวก หมู่ 6 ต.คลองวาฬ อ.เมืองฯ ในเวลา 09.00 วันที่ 16 ตุลาคม นี้ เพื่อจัดทำสถานที่พักคอยชั่วคราวแก้ไขปัญหาระยาว
หากมีการจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจำนวนมาก โดยการนัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่วัดรัตนวิเวก เพียงแต่ไปดูความพร้อมด้านสถานที่เท่านั้น แต่ยังไม่มีข้อยุติว่าจุดพักคอยดังกล่าวจะใช้งบประมาณของหน่วยงานใด ในระบบราชการบริหารส่วนภูมิภาค