เป็นข่าว » ผวจ.ประจวบฯ เรียกถกด่วน หาข้อยุติค่าอาหาร 3 มื้อ แรงงานเถื่อน จนต้องขอข้าวก้นบาตรพระ

ผวจ.ประจวบฯ เรียกถกด่วน หาข้อยุติค่าอาหาร 3 มื้อ แรงงานเถื่อน จนต้องขอข้าวก้นบาตรพระ

15 ตุลาคม 2021
583   0

ผวจ.ประจวบฯ เรียกถกด่วนหน่วยงานความมั่นคงชายแดน หาข้อยุติกรณีไม่สามารถใช้งบประมาณของรัฐ จ่ายเป็นค่าอาหาร 3 มื้อจนต้องขอข้าวก้นบาตรพระ หลังแรงงานเถื่อนทะลักไม่หยุดกระทบศูนย์กักกัน โอ.คิว.กักเมียนมาแน่นเกินพิกัด เตรียมสำรวจพื้นที่แห่งใหม่ทั้งเป็น ศูนย์โอคิวแห่งที่ 2 

วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสิงขร ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นายเสถียร  เจริญเหรียญ ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ประธาน​ พร้อมด้วย​ นายพรหมพิริยะ  กิจนุสนธ์ รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์, พล.ต.ต.วันชัย  ธารณธรรม ผบภ.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์, พ.อ.กรกานต์  นาเวชวนิชกุล รอง ผอ.รมน.จังหวัดประจวบฯ นายกิตติพงศ์  สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์,

พ.ต.อ.วิธิวัฒน์  ศรีทองจ้อย รอง ผบก.ภ.จว.ปข., พ.ต.อ.เสมอ  อยู่สำราญ ผกก. สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์, พ.ต.อ.เจริญ  ชนประเสริฐ ผกก.ฝ่ายงานสอบสวน ภ.จว.ประจวบ ฯ, ฝ่ายทหาร​หน่วยจงอางศึก, ฝ่ายปกครอง​, สาธารณสุขจังหวัดฯ ตม.สิงขร และหน่วยงานต่างๆ​ ที่เกี่ยวข้องฯ

เข้าร่วมประชุมแก้ไขปัญหาบุคคลต่างด้าวลับลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมวิธีมาตรการการป้องกันฯ และเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

พ.ต.อ.เสมอ อยู่สำราญ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงชายแดนหารือเร่งด่วน เพื่อหาข้อยุติในการใช้งบประมาณของรัฐจ่ายเป็นค่าอาหาร 3 มื้อ กำหนดแนวทางที่ชัดเจน

กรณีที่ไม่สามารถนำแรงงานชาวเมียนมา กักตัว 14 วัน ภายในสถานที่กักตัวตัวแรงงานหลบหนีเข้าเมืองหรือ โอ.คิว. กองร้อย ตชด.ที่ 146 ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งกำหนดเป็นสถานที่กักตัวบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง หรือ แรงงานเถื่อน ตามแนวทางที่หลายหน่วยงานกำหนดร่วมกันได้นั้น

ทั้งนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่าในรอบระยะเวลาแค่ 15 วัน มีแรงงานชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองต่อเนื่อง ควบคุมตัวได้มากกว่า 100 คนแล้ว ส่งผลกระทบทำให้สถานที่กักตัวที่จัดเตรียมไว้เกินความจุ ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้เพียงแค่ 50 คน แต่ปัจจุบันมี 64 คน ส่งผลทำให้แออัด อีกทั้งบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองดังกล่าวยังพบมีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มด้วย

โดยบุคคลหลบหนีเข้าเมืองส่วนที่เหลือ ได้ถูกนำมาควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้แก้ไขปัญหาเรื่องงบประมาณเบื้องต้น อันเป็นการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมให้กับบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งอยู่ในช่วงกักตัวโควิด 14 วัน แต่ยังไม่มีสถานะเป็นผู้ต้องหา ด้วยการจัดเลี้ยงอาหารครบ 3 มื้อ โดยอาหารและน้ำบางส่วนได้รับบริจาคจากประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าวนำมาบริจาค

อีกทั้งอาหารบางส่วน มาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจใน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ด้วยกันเอง ช่วยกันสมทบเพื่อช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม เนื่องจากไม่สามารถเบิกจ่ายงบจากทางราชการได้ เพราะผู้ที่ถูกควบคุมตัวยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา จนกว่าจะพ้นระยะการกักตัว 14 วัน ทั้งนี้หากตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 จึงจะนำไปผลักดันกลับประเทศต้นทางได้

“นอกจากนั้น กรณีการควบคุมตัวบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจำนวนมากและประสบปัญหาเรื่องงบประมาณในการจัดเลี้ยงอาหารนั้น ทางหลวงพ่อเจ้าอาวาสจาก วัดเกาะหลักพระอารามหลวง และวัดธรรมิการามวรวิหาร 2วัดดังของเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้ทราบข่าว ท่านจึงเมตตามอบอาหารจากการบิณฑบาต และอาหารที่ญาติโยมนำมาถวายที่วัดจำนวนมาก ทั้งอาหารสดและอาหารแห้ง มามอบให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองดังกล่าวด้วยความเมตตาตามหลักมนุษยธรรมเช่นกัน” พ.ต.อ.เสมอ กล่าว

มีรายงานด้วยว่า หลังผู้บริหารระดับจังหวัดประชุมเคร่งเครียดนานกว่า 3 ชั่วโมง ถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา กรณีไม่สามารถใช้งบประมาณของรัฐจ่ายเป็นค่าอาหาร 3 มื้อได้นั้น ปรากฎว่ายังไร้ข้อสรุปที่ชัดเจน เนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานใดเป็นเจ้าภาพหลัก จึงต้องดำเนินการในรูปแบบเดิมไปพลางก่อน

อย่างไรก็ตามทางจังหวัดจะดำเนินการสำรวจพื้นที่หาสถานที่ที่มีความเหมาะสม เพื่อตั้งเป็น ศูนย์กักกัน โอ.คิว.แห่งใหม่ โดยเตรียมสำรวจวัดรัตนวิเวก หมู่ 6 ต.คลองวาฬ อ.เมืองฯ ในเวลา 09.00 วันที่ 16 ตุลาคม นี้ เพื่อจัดทำสถานที่พักคอยชั่วคราวแก้ไขปัญหาระยาว

หากมีการจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจำนวนมาก โดยการนัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่วัดรัตนวิเวก เพียงแต่ไปดูความพร้อมด้านสถานที่เท่านั้น แต่ยังไม่มีข้อยุติว่าจุดพักคอยดังกล่าวจะใช้งบประมาณของหน่วยงานใด ในระบบราชการบริหารส่วนภูมิภาค