อาชญากรรม » ศาลหัวหินนัด 20 ตุลาคม นี้ ฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ คาดปิดฉากคดี ครอบครองยาบ้า 1 เม็ด

ศาลหัวหินนัด 20 ตุลาคม นี้ ฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ คาดปิดฉากคดี ครอบครองยาบ้า 1 เม็ด

19 ตุลาคม 2021
1157   0

ศาลหัวหินนัด 20 ตุลาคม นี้ ฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ คาดปิดฉากคดีโชเฟอร์สิบล้อ ครอบครองยาบ้า 1 เม็ด หลังถูกจับที่ด่านถาวร สภ.สามร้อยยอด จนเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปี 62

วันที่ 19 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 นายโสภณ วงศ์สวัสดิ์ อายุ 48 ปี ชาว จ.ชุมพร โชเฟอร์ขับรถบรรทุกสิบล้อ ทะเบียน 70 – 2434 ชุมพร ตกเป็นผู้ต้องหา หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ แจ้งข้อหาครอบครองยาบ้า 1 เม็ด

ซึ่งถูกชุดจับกุมบริเวณด่านตรวจถาวร สภ.สามร้อยยอด ตรวจค้นได้ที่บริเวณที่วางของ ด้านข้างที่นั่งคนขับ ขณะบรรทุกยางพารา ผ่านด่านตรวจจาก จ.ชุมพร ไปส่งที่ จ.ระยอง แต่นายโสภณได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะ ต่อมาศาลจังหวัดหัวหิน มีคำพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563 นั้น

ล่าสุด นายชำนัญ ศิริลักษณ์ ทนายความ รับมอบอำนาจจากนายโสภณ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ต่อศาลจังหวัดหัวหิน โดยใช้หลักฐานสำคัญจากคลิปเสียงในการสนทนายื่นต่อสู้ในคดี หลังจากพนักงานอัยการได้ยื่นอุทธรณ์ ล่าสุดศาลหัวหินนัดฟังคำพิพากษาช่วงเช้าวันที่ 20 ตุลาคม 2564 ซึ่งจะมีข้อยุติในคดี หลังจากต่อสู้ทางคดีมานานเกือบ 2 ปี หากศาลมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ก็ถือว่าคดีนี้ถึงที่สุด

จากนั้นจะติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามร้อยยอด ทั้งหมด 7 นาย ตั้งแต่ยศพันตำรวจตรีถึงนายดาบตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ คาดว่าคดีอยู่ที่การพิจาณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.

นายชำนัญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาพนักงานอัยการยื่นอุทธรณ์ว่า ยาบ้าอยู่บนรถก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นตรวจค้น ถือว่ามีอยู่ในรถที่จำเลยขับมาแล้ว เมื่อจำเลยไม่มีหลักฐานมาหักล้างสามารถลงโทษได้ แต่การค้นในรถไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ต้องค้นต่อหน้าจำเลย เพราะไม่ใช่ที่รโหฐาน ยาเสพติดที่พบจึงเป็นหลักฐานได้มาโดยชอบ ส่วนลายนิ้วมือ และ ดีเอ็นเอ บนหลอดยาเสพติดของกลาง ที่ไม่พบลายนิ้วมือหรือ ดีเอ็นเอ ของจำเลยเป็นการพบหลายลายมือ และดีเอ็นเอ จำนวนมาก จึงมีของจำเลยปนอยู่ด้วย

สำหรับเหตุผลที่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง คดีนี้มีเหตุควรสงสัย ศาลจึงยกข้อสงสัยให้เป็นประโยชน์ของจำเลย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ให้จำเลยร่วมตรวจค้น ดังนั้นการยื่นอุทธรณ์คดีนี้ จึงเป็นโอกาสในการพิสูจน์ความโปร่งใสของกระบวนการยุติธรรมทางอาญาในระดับประเทศ และเป็นการพิสูจน์สิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ได้รับความเสียหายทางคดีจะต้องทวงคืนความยุติธรรม

ทางด้านนายโสภณ  วงศ์สวัสดิ์  กล่าวว่า หลังจากเป็นตกผู้ต้องหานานเกือบ 2 ปี ทำให้ครอบครัวชาดรายได้มีผลกระทบพอสมควร  ไม่สามารถต่อใบอนุญาตใบขับขี่ได้เพราะคดียังไม่จบ  แต่โขคดีที่ไม่ตกงาน บริษัทเดิมให้โอกาสทำหน้าที่ รปภ. 

ส่วนสาเหตุที่ต้องต่อสู้ให้ถึงที่สุด เนื่องจากต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของตนเองเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ และปกป้องเพื่อนร่วมอาชีพ ไม่ให้มีการกระทำในลักษณะเดียวกัน  ยืนยันว่าคดีนี้จะเดินหน้าให้ถึงที่สุด ไม่มีการจรจาเพื่อต่อรองผลประโยชน์กับผู้ใดทั้งสิ้น สำหรับคดีนี้ ไม่ว่าศาลจะตัดสินใจอย่างไร ตนน้อมรับในกระบวนการยุติธรรม