เป็นข่าว » ประธานสภาเทศบาลประจวบฯ ร้องขอ ดีเอสไอ. สตง. ป.ป.ช. เร่งชี้มูลคดีรถดับเพลิง จากเงินกู้ฯ รวมมูลค่าสูงกว่า 30 ล้าน

ประธานสภาเทศบาลประจวบฯ ร้องขอ ดีเอสไอ. สตง. ป.ป.ช. เร่งชี้มูลคดีรถดับเพลิง จากเงินกู้ฯ รวมมูลค่าสูงกว่า 30 ล้าน

9 พฤศจิกายน 2021
615   0

ประธานสภาเทศบาลประจวบฯ ร้องขอ ดีเอสไอ. สตง. ป.ป.ช. เร่งชี้มูลคดีรถดับเพลิง จากเงินกู้ฯ รวมมูลค่าสูงกว่า 30 ล้าน หลังซื้อจอดทิ้งไม่สามารถใช้งานได้จริง มานาน 9 ปีแล้ว

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 นางกุหลาบ แฝงแก้ว ประธานสภาเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ แกนนำสมาชิกสภาเทศบาล ทีมพลังบ้านเกิด เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ผอ.สำนักงานตรวจสอบพิเศษภาค 12 จ.เพชรบุรี นำคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถดับเพลิงมูลค่ามากกว่า 30 ล้านบาท และแจ้งให้เทศบาลพิจาณาประมาณราคาซ่อมเพื่อนำไปใช้งานตามวัตถุประสงค์

โดยเทศบาลจัดซื้อตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 ปัจจุบันรถดับเพลิงดังกล่าวอยู่ในสภาพทรุดโทรมอย่างหนัก ไม่สามารถใช้งานได้จริง โดยได้จอดทิ้งไว้ที่บริเวณสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์  ห่างจากศาลากลางจังหวัดเพียง 200 เมตร โดยมีรายงานว่า ทาง ส.ท. จะสอบถามในการประชุมสภาเพื่อให้ฝ่ายบริหารชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ตัวแทนฝ่ายสภาฯ จะทำหนังสือสอบถามไปยัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอทราบความคืบหน้าในการตรวจสอบการทุจริต ทั้งการกำหนดสเปกล่วงหน้า การลงนามจัดซื้อ การลงนามของกรรมการตรวจรับพัสดุ การตรวจสอบฮั้วประมูล เนื่องจากได้จัดซื้อรถดับเพลิงนานกว่า 9 ปี แต่ไม่เคยนำมาใช้งานจริง

ดังนั้น สตง.หรือ ป.ป.ช.ควรเร่งชี้มูลความผิดเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องชดใช้ค่าเสียหายให้เทศบาล เนื่องจากงบจัดซื้อ 29 ล้านบาทดังกล่าว เป็นเงินกู้ แต่รวมดอกเบี้ยแล้วมีมูลค่ามากกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งกองคลังแจ้งว่าใกล้หมดระยะเวลาการผ่อนชำระกับสถาบันการเงินแล้ว

ทั้งนี้ยอมรับว่า การจัดซื้อรถดับเพลิงจากเงินกู้เป็นบทเรียนของ ส.ท.ทีมพลังบ้านเกิด ทำให้เกิดความเสียหายจากการใช้งบประมาณโดยไม่เกิดประโยชน์ ขณะนั้นทีมพลังบ้านเกิดมีเสียงข้างมาก 12 คน แต่มี ส.ท. 6 คนยกมือสนับสนุนเสียงของทีม ส.ท.จากกลุ่มรักษ์ถิ่นที่มี 6 เสียง ก่อนทำหน้าที่ครบ 4 ปี ไม่กี่เดือน โดยหัวหน้ากลุ่มรักษ์ถิ่นเป็นผู้บริหารเทศบาลเสนอญัตติเข้าสภาเมื่อปี 2554

ด้านแหล่งข่าว อดีตกรรมการตรวจรับพัสดุ 2 ราย ซึ่งไม่มีรายชื่อลงนามรับมอบรถดับเพลิงดังกล่าว ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในการจัดซื้อ โดยเฉพาะปัญหาจากระบบไฮโดรลิกทำงานช้า หลังจากผู้บริหารเทศบาลลงนามซื้อเมื่อปี 2555 จากการตรวจสอบพบว่า มีสัญญาการรับประกันคุณภาพ แค่ 2 ปี

มีการนำเจ้าหน้าที่ไปฝึกใช้งานร่วมกับตัวแทนบริษัทฯ พบว่ามีปัญหาในการใช้งาน เช่นเดียวกับเทศบาลในจังหวัดภาคกลางอีกหลายแห่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มั่นใจด้านความปลอดภัยจากการใช้บันไดที่มีความสูง 18 เมตร ส่วนกรณีที่ สตง.สั่งให้ตรวจสอบเพื่อนำกลับไปใช้งานตามปกตินั้น ยืนยันว่าไม่สามารถซ่อมได้ และที่สำคัญขณะนี้ไม่สามารถติดต่อบริษัทฯ ผู้จำหน่ายได้