เป็นข่าว » ชาวบ้านช้างแรกร้อง หลังกรมทางหลวงแจ้งให้ซื้อท่อเอง ทำทางเชื่อมเข้าบ้านพักอาศัย

ชาวบ้านช้างแรกร้อง หลังกรมทางหลวงแจ้งให้ซื้อท่อเอง ทำทางเชื่อมเข้าบ้านพักอาศัย

7 ธันวาคม 2021
725   0

Cr.มานพ ฟูเฟื่อง/บางสะพานน้อย

ชาวบ้านช้างแรกร้อง หลังกรมทางหลวงแจ้งให้ซื้อท่อเอง ทำทางเชื่อมเข้าบ้านพักอาศัย โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3497 ยอมรับราคาสูง และโควิดกระทบรายได้อย่างหนัก วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน

วันที่ 7 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาอเนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ช้างแรก  อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชาวบ้านประมาณ 50 ครัวเรือน จำนวนกว่าครึ่งร้อย  พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ท.ประสพโชค สุวรรณรักษ์  นายช่างจากสำนักงานก่อสร้างที่ 1 กรมทางหลวง 

นายพนม ศรีซ้อน  สจ. อ.บางสะพานน้อย  นายธนวัฒน์  ชื่นชอบทรัพย์  กำนัน ต.ช้างแรก ได้ร่วมกันประชุมชี้แจงกรณี ชาวบ้านที่มีบ้านพักอยู่ริมถนนเพชรเกษม บ้านปากคลอง จะต้องดำเนินการซื้อท่อเพื่อวางท่อหลังขออนุญาตทำทางเชื่อมเข้าบ้านพักอาศัย

หลังมีการดำเนินการในโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3497 สาย บ้านช้างแรก อ.บางสะพานน้อย ระหว่าง กม.ที่ 0+000.000 – 10.+590 กิโลเมตร งบประมาณค่าก่อสร้าง 105,600,000.00 บาท ดำเนินการก่อสร้างโดย ห้างหุ้นส่วนจำกัดโชคชัยรัตน์การโยธา และควบคุมงานโดย สำนักงานก่อสร้างทางที่ 1 กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม

นายพนม ศรีซ้อน กล่าวว่า ปัญหาที่ชาวบ้านเป็นห่วงคือ ค่าใช้จ่ายในการซื้อท่อซีเมนต์ ขนาด 80 ซ.ม. ถึง  100 ซ.ม. ซึ่งมีราคาสูงมาก และค่าใช้จ่ายต่างๆในเรื่องของการวางท่อหลังขออนุญาตทำทางเชื่อมเข้าบ้านพักอาศัย

เบื้องต้นได้พูดคุยกับผู้รับผิดชอบแล้วโดยขอให้บรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านซึ่งประสบกับสถานการณ์โควิด มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และคาดว่าทางหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการน่าจะมีแนวทางช่วยเหลือบางส่วน

นายสุรินทร์ พวงอินทร์ ชาวบ้านหมู่ 3 ต.ช้างแรก กล่าวว่า การสร้างถนนสายดังกล่าวชาวบ้านไม่ได้รับทราบข้อมูลโดยเฉพาะแบบการก่อสร้างแต่จู่ๆเจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าให้ออกใช้จ่ายในการซื้อท่อตามมาตรฐานของกรมทางหลวงซึ่งมีราคาสูงมากบ้านพักอาศัยก็ใช้ประมาณ  6  ปลอก ปลอกล่ะ  1000 -1500 บาท

ยอมรับว่าถ้าต้องซื้อท่อเองจริงคงเดือดร้อนมากอย่างแน่นอน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในครั้งนี้