สิ่งแวดล้อม » “ปิยะ” เดือดจี้รัฐ คุมเข้มกำหนดขนาดพันธุ์สัตว์น้ำ “ห้ามจับลูกปลาทู” หวั่นเกิดวิกฤติสูญพันธุ์

“ปิยะ” เดือดจี้รัฐ คุมเข้มกำหนดขนาดพันธุ์สัตว์น้ำ “ห้ามจับลูกปลาทู” หวั่นเกิดวิกฤติสูญพันธุ์

10 มกราคม 2022
1015   0

“ปิยะ” นายกสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย เดือดจี้รัฐคุมเข้มกำหนดขนาดพันธุ์สัตว์น้ำ “ห้ามจับลูกปลาทู” หวั่นเกิดวิกฤติสูญพันธุ์จากทะเลไทย หลังเจอคลิปโพสต์ขายลูกปลาทูผ่านระบบออนไลน์อย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต  

วันที่ 10 มกราคม 2565 นายปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมประมงบ้านทุ่งน้อย ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะนายกสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในโลกออนไลน์ได้มีกลุ่มคนบางกลุ่มเผยแพร่ภาพการจับลูกปลาทู การแปรรูป เพื่อนำไปขายผ่านระบบออนไลน์อย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต  

“มันจะไม่หมดได้ยังไง ภาพจับลูกปลาทู ที่ขายกันอย่างมโหฬาร ปลาทู ปลาคู่คนไทยถูกทำลาย ถูกตัดตอน แบบถอนรากถอนโคน สะท้อน วิธีการทำงานของรัฐบาล อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แน่นอนว่า นายกรัฐมนตรี ดูแลทุกเรื่องในประเทศไม่ครบ ในทุกๆด้าน อย่างละเอียดครบถ้วนไม่ได้ แต่การที่มีรัฐมนตรี รับผิดชอบกระทรวง กรม ให้รับเฉพาะเรื่องเฉพาะด้าน ก็ถือว่าค่อนข้างครอบคลุม ตามที่รัฐมนตรีว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีอำนาจตามมาตรา 57 แห่งพระราชกำหนด2558 ให้กำหนดขนาดของพันธุ์สัตว์น้ำ ให้มีความเหมาะสม

ไม่น่าเชื่อ แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว ยังไม่มีการกำหนดขนาดของพันธุ์สัตว์น้ำ แม้แต่ชนิดเดียว แต่มีการจะนำเงินจำนวนค่อนข้างสูง เพื่อเพาะพันธุ์ปลาทูให้กลับมาคู่ทะเลไทย และครัวไทย ผมยืนยัน นั่งยัน นอนยันได้เลยว่า ต่อให้เพาะพันธุ์ ปล่อยลูกปลาทู มากมายมหาศาลขนาดใหน ก็หมดครับ ถ้ายังไม่มีมาตราการ กำหนดขนาดของพันธุ์สัตว์น้ำที่ชัดเจน

นี้จึงเป็นที่มาของการ ตำหนิ  วิจารณ์ รัฐบาล อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมคนหนึ่ง ที่มีความรอบรู้ วงจรชีวิตของปลาทู อย่างรู้แจ้ง เห็นจริง สัมผัสจริง จึงได้แต่บอกกับสังคมว่า เราต้องช่วยกันปกป้องแหล่งอาหารของปัจจุบันและแหล่งอาหารของอนาคต ไม่งั้นปลาสูญพันธุ์แน่นอน ที่สำคัญ สัตว์น้ำในทะเลไทย เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว แหล่งเศรษฐกิจ แหล่งเรียนรู้ อาชีพ รายได้ ผูกพันกับจีดีพีของประเทศ ปกป้องลูกปลาทูร่วมกันครับ” นายปิยะ กล่าว

นายปิยะ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีโครงการของรัฐบาล ที่นำเงินงบประมาณจำนวนมาก ทำการวิจัยเพาะพันธุ์ลูกปลาทู เพื่อปล่อยคืนกลับสู่แหล่งท้องทะเล หวังให้ปลาทูไม่สูญพันธุ์ กลับมาคู่ทะเลไทย โดยในความเป็นจริงแล้วการเพาะพันธุ์ลูกปลาทู หรือปล่อยลูกปลาทูจำนวนมากเพียงใด ก็ไม่เกิดประโยชน์และสิ้นเปลืองงบประมาณ

หากไม่มีการกำหนดขนาดของพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อให้ทุกคนทำตามกฎกติการ่วมกัน รัฐบาลต้องใช้ข้อกฎหมาย รณรงค์ให้สังคมไทยช่วยกันปกป้องแหล่งอาหารทางธรรมชาติในปัจจุบันและแหล่งอาหารของอนาคต เพื่อลดความเสี่ยงกับการสูญพันธุ์ของปลาทูในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน สิ่งสำคัญคือ ไม่ควร กิน ซื้อ ขาย จับลูกปลาทู ก่อนที่จะเกิดวิกฤตต่อทุกคน