อาชญากรรม » รวบตัว “3 วัยรุ่น” ลักรถ “จยย.3 คัน” สลดใจมีเยาวชนอายุ ไม่เกิน 18 ปี ร่วมแก๊งด้วย

รวบตัว “3 วัยรุ่น” ลักรถ “จยย.3 คัน” สลดใจมีเยาวชนอายุ ไม่เกิน 18 ปี ร่วมแก๊งด้วย

14 มกราคม 2022
6256   0

ผู้การประจวบฯ สั่งเร่งคลี่คลายคดีลักรถ จยย.ช่วยประชาชนเดือนร้อนรายวัน ล่าสุด รวบตัว “3 วัยรุ่น” ลักรถ “จยย.3 คัน” สลดใจมีเยาวชนอายุ ไม่เกิน 18 ปี ร่วมแก๊งด้วย สารภาพจะเอาไปแต่งรถซิ่ง

วันที่ 14 มกราคม 2565 พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.กิตติภพ ชมภูนุช และ พ.ต.อ.พนิช อ่วมสอาด รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ติดตามคลี่คลายคดีลักทรัพย์เป็นรถจักรยานยนต์ของประชาชนในพื้นที่ อ.กุยบุรี โดยเร็วเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการโจรกรรมดังกล่าว

จากนั้นสั่งการให้ พ.ต.อ.พฤหัส สังข์ประเสิรฐ ผกก.สภ.กุยบุรี และ พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผกก.สืบสวน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันวางแผนสอบสวนหาข่าว และติดตามพฤติกรรมคนร้ายที่ก่อเหตุกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย น่าสลดใจ มีเยาวชนร่วมวงก่อเหตุด้วย  2 ราย

ได้แก่ นายวิวัฒน์ หรือต้น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปีเศษ ชาว จ.กาญจนบุรี  , เยาวชนชาย อายุ 17 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช และเยาวชนชาย อายุ 16 ปี ชาว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมของกลาง

รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 1กจ 5544 ประจวบฯ , รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ออนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงินดำ หมายเลขทะเบียน 1กง 775 ประจวบฯ และ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 สีน้ำเงินเทา หมายเลขทะเบียน ขขว 362 ประจวบฯ

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า เมื่อวันที่ 11-12 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00-04.00 น. ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ซึ่งชาวบ้านซึ่งเป็นผู้เสียหายรวม 3 ราย ได้จอดไว้ โดยคันแรก จอดไว้ที่หน้าบ้านของตนเอง เยื้องที่ทำการไปรษณีย์กุยบุรี ,

ส่วนรถจักรยานยนต์คันที่ 2 จอดไว้ที่หน้าบ้านตรงวงเวียนริมทางรถไฟกุยบุรี  และ คันที่ 3 จอดที่หน้าบ้านในหมู่บ้านโคกรัก อ.กุยบุรี ต่อมาเวลาเช้าวันรุ่งขึ้น จึงทราบว่ารถจักรยานยนต์ของตนได้หายไป ทั้งหมดจึงมาแจ้งความที่ สภ.กุยบุรี

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.กุยบุรี ได้ร่วมกับ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ทำการสืบสวนและหาข้อมูลคนร้าย จนทำให้ทราบว่า คนร้ายเป็นชายสามคนขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมา

จากนั้นเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ 1 ใน 3 คนร้าย จะลงจากรถเข้าไปลักรถจักรยานยนต์โดยใช้วิธีเข็นรถออกมาจากที่จอด จากนั้นขึ้นนั่งบังคับรถแล้วให้ผู้ต้องหาอีก 2 คน  ซึ่งได้ติดเครื่องจักรยานยนต์คันที่ขับขี่มารอไว้ ช่วยกันถีบดันรถถูกโจรกรรมให้เคลื่อนที่หลบหนีไป จากนั้นผู้ต้องหาทั้งสามได้กลับมาทำการโจรกรรมรถจักรยานยนต์คันที่ 2 และ 3 โดยใช้วิธีถีบดันพารถหลบหนีแบบเดียวกัน

หลังตรวจสอบจนแน่ใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ออกติดตามคนร้ายและได้รับแจ้งข่าวจากพลเมืองดี จนทราบแหล่งกบดานของคนร้าย จึงสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมดพร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ถูกโจรกรรมไป ขณะกำลังแปลงชิ้นส่วนสถาพรถเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ ที่บริเวณบ้านหลังหนึ่ง ถ.มหาราช2 ต.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์  

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งสามให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ โดยได้ขี่จักรยานยนต์ซ้อนกันมาสามคน ตระเวนดูรถจักรยานยนต์ ซึ่งจะเลือกแต่ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ที่ไม่ได้ทำการล็อกคอหรือล็อคล้อไว้ เพราะง่ายต่อการขโมย

โดยใช้วิธีเข็นออกมาจากที่จอด แล้วช่วยกันถีบดันรถกันไป นำไปเก็บซุกซ่อนไว้ที่หน้าวัดวังยาวก่อน หลังจากนั้นจะตระเวนหาลักคันอื่นต่อไป เมื่อได้หลายคันแล้ว จะลองนำกุญแจที่เตรียมมาลองไขสวิตชสตาร์ทรถ หากสตาร์ทรถได้จะขับขี่ไป แต่หากสตาร์ทรถไม่ได้ จะถีบรถไปเก็บไว้ที่บ้านร้างในตัวเมืองประจวบฯ และทำการแปลงชิ้นส่วนต่างๆ เพื่ออำพรางแล้วขายต่อ  

โดยต้องการนำรถไปแต่งซิ่ง  ถอดท่อไอเสียออก  เฟรมข้างรถ และกระจกข้าง  เพื่อนำไปแต่งซิ่ง  เบื้องต้นวัยรุ่นทั้งสามรายไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่  และไม่ได้เรียนหนังสือ 

อย่างก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำ ความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป คุมตัวส่ง พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป