344 แรงงานเมียนมาร์ ไหลทะลักลอบข้ามแดนเข้าประจวบฯ ซุกตัวเงียบในพุ่มไม้รกครึ้ม ก่อนพลาดท่าเมื่อ จนท.ได้ยินเสียงแว่วคล้ายเสียงคนกระแอมไอ เข้าค้นเจอแอบซ่อนตัวหลายร้อยคน
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การอำนวยการของ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องหลากสิน รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ สั่งการให้ ร.ท.บรรชา ช้างเขียว ผบ.ควบคุม ส่วนลาดตระเวน ฉก.จงอางศึก/ ร.29
สนธิกำลังร่วมกับ นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ รักษาการป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายดฤษกร สายศิวานนท์ ปลัดอําเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ตชด.146 ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ อส.จังหวัด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ชรบ ชุดการข่าว กอ.รมน.จ.ประจวบคีรีขันธ์
ได้ร่วมกันวางแผนสกัดกั้นบุคคลที่จะลักลอบผ่านแดน หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า จะมีการลักลอบข้ามแดนของแรงงานชาวเมียนมาร์ หรือชาวพม่าเข้ามาจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องจัดแบ่งกำลัง พร้อมจัดชุดลาดตระเวน ปูพรมกระจายไปตามจุดสำคัญต่าง ๆ ตลอดแนวเทือกเขาตะนาวศรี รอยต่อชายแดนไทย-เมียนมาร์ ที่หมู่ 9 บ้านมะขามโพรง ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ต้องใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมง ในการเข้าตรวจสอบตามพิกัดต้องสงสัยตลอดแนวชายแดนที่เคยตรวจพบการลักลอบผ่านข้ามชายแดน ยังกลับไม่พบตัวแต่อย่างใด กระทั่งเจ้าหน้าที่นายหนึ่ง ได้ยินเสียงแว่วคล้ายเสียงคนกระแอมไอ ดังมาจากทางพุ่มไม้รกครึ้ม
จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้น ปรากฏว่าภายในพุ่มไม้มีชาวเมียนมาร์แอบซ่อนตัวอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้ควบคุมตัวออกมายังจุดพื้นที่โล่ง ตรวจนับบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ได้จำนวนมากถึง 344 คน ทั้งหมดเป็นชาวเมียนมาร์ แบ่งเป็นชาย 196 คน และหญิงอีก 148 คน ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ชาวเมียนมาร์บางคน สามารถพูดภาษาไทยได้และยอมรับว่าเคยทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยมาก่อน
จากการสอบถามผ่านล่ามชาวเมียนมาร์ พบว่า ชาวเมียนมาทั้งหมด เดินทางมาจาก จ.มะกุย , จ.มันดาเลย์ และ จ.เมาะลำไย จากนั้นมาพักคอยอยู่ที่บริเวณบ้านมูด่อง ฝั่งประเทศเมียนมาร์ ห่างจากชายแดนไทยช่องสิงขร ประมาณ 3 กิโลเมตร
จากนั้นคนนำพา จะพาเดินข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ เมื่อข้ามฝั่งเข้าเขตประเทศไทยได้แล้ว จะซุกซ่อนตัวหรือแอบแอบตามพุ่มไม้เพื่อหลบสายตาเจ้าหน้าที่ จากนั้นจะรอนายหน้านำรถมารับตัวยังจุดนัดหมาย เมื่อพาไปส่งที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 20,000 – 25,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้แจ้งให้ล่ามแปลเป็นภาษาพม่า เพื่อชี้แจงให้ทุกคนเข้าใจว่า การลักลอบข้ามแดนมายังประเทศไทยนั้นผิดกฏหมาย พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้เข้ามายังช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมายเมื่อเปิดให้มีการผ่านแดน จากนั้นจึงดำเนินการส่งกลับผู้หลบหนีเข้าเมืองกลับประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติที่เดินข้ามมาต่อไป