เป็นข่าว » ชาวบ้านปราณบุรีร้องประปาท่อแตกรายวัน ขณะที่ ผจก.กปภ.สาขาปราณบุรี ยอมรับ ท่อน้ำดิบ HDPE ไม่ได้คุณภาพ

ชาวบ้านปราณบุรีร้องประปาท่อแตกรายวัน ขณะที่ ผจก.กปภ.สาขาปราณบุรี ยอมรับ ท่อน้ำดิบ HDPE ไม่ได้คุณภาพ

20 เมษายน 2023
471   0

ชาวบ้านปราณบุรีร้องประปาท่อแตกรายวัน ต้องหยุดจ่ายน้ำส่งกระทบกับชาวบ้านและการท่องเที่ยว ขณะที่ ผจก.การประปาส่วนภูมิภาคสาขาปราณบุรี ยอมรับ ท่อน้ำดิบ HDPE สายหลัก ที่สร้างเสร็จเมื่อปี 2557 ไม่ได้คุณภาพ เริ่มแตกร้าวถี่ วอนผู้บริหารระดับสูง จัดสรรงบประมาณซ่อมแซมเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนโดยด่วน

วันที่ 20 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านใน อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ กรณีน้ำประปาไม่ไหลบ่อยครั้ง ๆ ละ 5-10 ชม.หรือบางครั้งน้ำไม่ไหลแบบข้ามวันข้ามคืน ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ กว่า 3 หมื่นครัวเรือน รวมทั้งกระทบกับนักท่องเที่ยว รวมทั้งภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งโรงแรมรีสอร์ตต่าง ๆ ใน ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี ที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวรองจาก อ.หัวหิน

ทั้งนี้ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับ นายไอยเรศ ชัยกุล ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาปราณบุรี และเจ้าหน้าที่ทีมช่างสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคสาขาปราณบุรี โดยได้ลงพื้นที่บริเวณริมถนนบายพาสหมายเลข 37 (ปราณบุรี-ชะอำ) ใกล้กับสี่แยกหนองไผ่ ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งพบปัญหาท่อน้ำดิบ HDPE สำหรับส่งน้ำดิบ ขนาด 500 มม.แตกร้าวเป็นทางยาวประมาณ 6 เมตร ต้องตัดต่อท่อเส้นใหม่เพื่อแก้ไขปัญหา ทำให้ต้องปิดระบบส่งน้ำประปาเป็นการชั่วคราว

นายไอยเรศ ชัยกุล ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาปราณบุรี เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตนมารับตำแหน่งในพื้นที่ อ.ปราณบุรี ประมาณ 3 ปี พบปัญหาท่อน้ำดิบ HDPE แตกเสียหายนับครั้งไม่ถ้วน หากเป็นแผลขนาดเล็กตนจะไม่ปิดระบบส่งน้ำ แต่จะใช้วิธีการปิดแผลด้วยรีแพร์แคล้มป์เพื่อซ่อมท่อรั่ว

แต่หากเป็นแผลขนาดใหญ่จะไม่สามารถทำได้ต้องตัดต่อและเปลี่ยนท่อเส้นใหม่เท่านั้น โดยพบว่าตั้งแต่ต้นปี2566 ที่ผ่านมา รวมทั้งตลอดเดือนเมษายนนี้ เกิดปัญหาท่อน้ำดิบ HDPE แตกบ่อยครั้ง จนแทบจะเรียกว่าแตกรายวัน ซึ่งอำนาจหน้าที่ที่ตนมีทำได้เพียงเร่งซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่านั้น

โดยแต่ละครั้งที่ท่อแตกเสียหาย ไม่สามารถแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบล่วงหน้าได้ แต่เมื่อตรวจพบท่อแตกจะเร่งแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุด หากเป็นแผลขนาดเล็กจะใช้เวลาในการซ้อมท่อรวมการระบายอากาศ ราว 5-10 ชม.แต่หากต้องตัดต่อท่อขนาดใหญ่จะใช้เวลานานมากขึ้นไปอีกหลายชั่วโมงหรืออาจใช้เวลาเป็นวันกว่าน้ำจะเต็มระบบ

เพราะเมื่อซ่อมท่อเสร็จแล้วจะไม่สามารถเปิดน้ำให้ไหลเต็มระบบได้ในทันที แต่จะต้องทยอยระบายอากาศในท่อออกเป็นจุด ๆ และทยอยเพิ่มแรงดันน้ำ เพื่อป้องกันท่อแตกเสียหาย

นายไอยเรศ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเคสล่าสุด เป็นกรณีปัญหาท่อน้ำดิบ HDPE ขนาด 500 มม.ที่รับน้ำจากสถานีผลิตน้ำเขาเสวยราช ต.ทับใต้ อ.หัวหิน ไปยัง ต.ปากน้ำปราณ และสี่แยก อ.ปราณบุรี ซึ่งเป็นย่านชุมชนขนาดใหญ่ เกิดแตกเสียหายเป็นรอยร้าวยาวประมาณ 6 เมตร ทำให้ต้องปิดระบบส่งน้ำต่อเนื่อง กระทบกับพี่น้องประชาชนราว 20,000 ครัวเรือนไม่มีน้ำประปาใช้

โดยในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ท่อน้ำดิบแตกเสียหาย 3 วันติดแต่คนละจุดกัน ทั้งนี้ทางการประปาส่วนภูมิภาคสาขาปราณบุรี ไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งประสานผู้รับเหมามาซ่อมแซมให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อให้กระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด

สำหรับลูกค้าทั้งหมดของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาปราณบุรี มี 34,026 ราย โดยท่อน้ำดิบจากบ้านเขาเสวยราช ต.ทับใต้ อ.หัวหิน ไปยัง อ.ปราณบุรี เส้นนี้เป็นเส้นท่อหลักและเป็นหัวใจของการส่งน้ำไปยัง อ.ปราณบุรี ซึ่งมีลูกค้าที่ใช้น้ำจากเส้นท่อนี้กว่า 2 หมื่นราย

สำหรับสาเหตุที่ท่อน้ำดิบแตกบ่อยครั้ง ยอมรับว่า เกิดจากท่อน้ำดิบ HDPE ของเดิมที่สร้างเสร็จเมื่อปี 2557 เป็นวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ ตั้งแต่สร้างเสร็จพบปัญหาท่อแตกร้าวเรื่อยมา และเริ่มแตกบ่อยครั้งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยที่ไม่สามารถเพิ่มแรงดันน้ำได้มากนัก เพราะเมื่อเพิ่มแรงดันท่อจะยิ่งแตก

ทั้งที่ท่อน้ำดิบเส้นดังกล่าวมีอายุการใช้งานยังไม่ถึง 10 ปี จากที่ควรจะมีอายุใช้งานราว 30 ปี ปัญหาคือคุณภาพท่อน้ำดิบไม่ได้มาตรฐานรับแรงดันไม่ไหวทำให้ท่อแตก

ทั้งนี้ตนได้หารือกับผู้บังคับบัญชา และแจ้งข้อมูลให้ผู้บริหารทราบ เพื่อจัดหางบประมาณหรือแนวทางการแก้ไขปัญหามาช่วยเหลือประชาชน ซึ่งท่อน้ำดิบเส้นที่ประสบปัญหาเริ่มต้นจากสถานีผลิตน้ำเขาเสวยราช ใกล้กับที่ว่าการอำเภอหัวหิน ไปยัง อ.ปราณบุรี ระยะทางราว 20 กิโลเมตร งบประมาณการสร้างใหม่ มากกว่า 100 ล้านบาท

แต่จุดที่เป็นปัญหาเร่งด่วนตั้งแต่บริเวณด้านหน้าแม็คโครปราณบุรี มายังสี่แยกหนองไผ่ระยะทางราว 6-7 กิโลเมตร ที่พบว่าเป็นจุดที่ท่อแตกบ่อยครั้ง ใช้งบราว 50 ล้านบาท แต่หากไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะเปลี่ยนทั้งเส้น จะตัดแบ่งมาให้ซ่อมครั้งละ 500 เมตร หรือ 1 กิโลเมตร ในจุดที่แตกเสียหายบ่อยครั้งก่อนเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาเบื้องต้นก่อนก็ได้ เพราะหากบ่อยทิ้งไว้ปัญหาจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีกแน่นอน

โดยขั้นตอนขณะนี้ทางการประปาส่วนภูมิภาคสาขาปราณบุรี ได้ส่งเรื่องปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าวไปยัง การประปาส่วนภูมิภาคเขต 3 อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แล้ว ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเพื่อออกแบบสำรวจ จากนั้นจะส่งเรื่องต่อไปยัง คณธผู้บริหารฯการประปาส่วนภูมิภาค (สำนักงานใหญ่) หลักสี่ กรุงเทพฯพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาตามขั้นตอน.