เป็นข่าว » รวบแม่เล้า ส่งเด็กหญิงอายุ 13 ปี ให้พระผู้ใหญ่ มีสัมพันธ์พิเศษ

รวบแม่เล้า ส่งเด็กหญิงอายุ 13 ปี ให้พระผู้ใหญ่ มีสัมพันธ์พิเศษ

30 ตุลาคม 2024
138   0

รวบแม่เล้า ส่งเด็กหญิงอายุ 13 ปี ให้พระผู้ใหญ่ มีสัมพันธ์พิเศษ

วันที่ 30 ตุลาคม 2567 พ.ต.อ.พสิษฐ์ ก้อนสิน ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ. 7 รักษาราชการแทน สวญ.สภ.สามกระทาย เปิดเผยว่า เมื่อเย็นวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ประจักษ์ จีนจิ๋ว สว.สส.สภ.สามกระทาย พร้อมกำลังชุดสืบสวน นำหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ จ.153/2567 คดีอาญาที่ 103/2567 ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2567 ไปควบคุมตัว นางสาวสุวรรณี (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ 37 ปี อาชีพรับจ้าง ที่ร้านข้าวต้มริมถนนเพชรเกษม ข้างธนาคารแห่งหนึ่ง ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ในฐานความผิดเบื้องต้น  เป็นธุระจัดหา  เพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีฯ  และค้ามนุษย์  เป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกิน  15  ปี  โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่12  มิถุนายน  2567  เวลากลางคืน  ภายในกุฏิวัดแห่งหนึ่งในกุยบุรี

สืบเนื่องจาก  เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา  ผู้ปกครองของเด็กหญิงเอ  อายุ  13  ปี   ร้องไปยังสายด่วน พม. 1300  เนื่องจากสังเกตุว่าบุตรสาวไม่สบาย  มีอาการป่วยเป็นไข้เจ็บ จึงสอบถามได้ความว่าบุตรสาวของตนถูกกลุ่มวัยรุ่น  5  คนรุมโทรมในพื้นที่ อ.สามร้อยยอด  และเคยมีความสัมพันธ์พิเศษกับพระผู้ใหญ่ในพื้นที่ อ.กุยบุรี ด้วย

ต่อมาเมื่อวันที่  19  กันยายน  2567  พล.ต.ต.จำลอง  งามเนตร  ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์  นำชุดสืบสวนตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์  หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  พิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  และกำลัง อส.อำเภอกุยบุรี  หลายสิบนาย  ตรวจหาหลักฐานในห้องพักและหลักฐานอื่น ๆ  ที่เกี่ยวข้อง  ตามขั้นตอนของกฎหมาย  พร้อมทั้งเชิญตัวเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง  อายุ  78  ปี  ใน อ.กุยบุรี  มาสอบปากคำ  โดยมีพระครูโกศลสุภกิจ  เจ้าคณะอำเภอกุยบุรี/เจ้าอาวาสวัดวังยาว  และคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่  ร่วมกันพิจารณา โดย พระผู้ใหญ่ให้การปฏิเสธ และแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการนำตรวจค้นภายในกุฎิ

โดยในวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติม อีกจำนวน  5  ราย  ประกอบด้วยเยาวชนอายุไม่เกิน  15  ปี  จำนวน  3  ราย  และอายุเกิน  18  ปี  อีก  2  ราย  หลังสอบปากคำ ได้ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ขณะที่ผู้จัดหารายนี้ ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเฝ้าติดตามพฤติกรรม กระทั่งทราบว่า ย้อนกลับเข้าพื้นที่แล้ว จึงนำหมายจับเข้าควบคุมดังกล่าว

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า  นางสาวสุวรรณี  พาเด็กหญิงเอ อายุ  13  ปี  ไปยังกุฏิที่พระผู้ใหญ่อายุ  78  ปี  อาศัยอยู่  โดยมีความสัมพันธ์กันหลายครั้ง  และได้ค่าตอบแทนครั้งละ  2,500 – 6,000  บาท  ช่วงกลางปี  กระทั่งเด็กหญิงเอ ถูกวัยรุ่น  5  คนรุมโทรม  มีอาการเจ็บช้ำภายใน  ผู้ปกครองจึงพาตัวส่งโรงพยาบาลและแจ้งสายด่วน พม.1300  เป็นเหตุให้มีผู้เกี่ยวข้องรายหลายทั้งวัยรุ่น พระผู้ใหญ่ และแม่เล้าผู้จัดหารายดังกล่าว

มีรายงานว่า คดีนี้ไม่ใช่แค่การกระทำผิดทั่วไป แต่เป็นกรณีที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์และการละเมิดสิทธิเด็กในรูปแบบที่กฎหมายกำหนดบทลงโทษไว้ชัดเจน อีกทั้งเป็นคดีที่มีโทษร้ายแรงเพื่อปกป้องสิทธิและความปลอดภัยของเด็ก

สำหรับคดีนี้เกี่ยวข้องกับกฎหมายในฐานความผิดสำคัญ หลายข้อได้แก่

1. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 (ธุระจัดหาเพื่อค้าประเวณี)

• มาตรา 282 ระบุว่า ผู้ใดเป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งบุคคลเพื่อค้าประเวณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ถือว่ามีความผิดร้ายแรงและต้องรับโทษจำคุก 10 ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 ถึง 400,000 บาท

2. พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551

• การแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็กและการบังคับใช้แรงงานเด็ก เข้าข่ายค้ามนุษย์ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ซึ่งมีโทษจำคุก 15 ปี ถึงตลอดชีวิต หรือปรับตั้งแต่ 1,000,000 ถึง 2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283 (ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี)

• มาตรา 283 ระบุว่า การกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยที่เด็กไม่ยินยอมถือเป็นความผิดทางอาญาร้ายแรง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปี ถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต หากผู้กระทำเป็นพระสงฆ์หรือผู้มีอำนาจ ย่อมถือว่าเป็นการเพิ่มโทษที่อาจจะพิจารณาให้หนักขึ้นตามสถานการณ์