ผู้ว่าประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักในพื้นที่เสี่ยง 3 อำเภอโซนใต้
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและเตรียมการรับมือฝนตกหนักในพื้นที่เสี่ยงของจังหวัด โดยเฉพาะใน 3 อำเภอโซนใต้ที่อาจได้รับผลกระทบตามประกาศเตือนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พร้อมด้วย นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัด และนายธนวัฒน์ เรืองเดช หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จังหวัด รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมติดตามการเตรียมความพร้อมครั้งนี้
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และคณะฯ ได้ลงพื้นที่อำเภอบางสะพานน้อย โดยเฉพาะบริเวณคลองหน้าสถานีรถไฟ หรือคลองน้ำเค็ม ซึ่งเป็นจุดต่ำที่มีตลาดสดเทศบาลและชุมชนกว่า 200 ครัวเรือนอาศัยอยู่ ที่นี่ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและอาสาสมัครเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันน้ำท่วม
จากนั้น ได้เดินทางไปยังอำเภอบางสะพาน เพื่อติดตามการระบายน้ำบริเวณประตูบังคับน้ำฝ่ายล่างและประตูระบายน้ำคลองลัด ซึ่งสามารถระบายน้ำได้ดี ช่วยป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของตำบลพงศ์ประศาสน์ ตำบลกำเนิดนพคุณ และตำบลแม่รำพึง นอกจากนี้ยังได้กำหนดจุดเฝ้าระวังและเตือนภัยบริเวณสะพานวังยาวและคลองบางสะพานอย่างเป็นระบบ
นอกจากนั้นยังได้ไปตรวจติดตามการป้องกันสถานการณ์น้ำ ของโรงพยาบาลบางสะพาน ซึ่งมีความพร้อมโดยการติดตั้งประตูกันน้ำรอบทิศทางจำนวน 5 ประตู และเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง รวมถึงระบบระบายน้ำอัตโนมัติ เพื่อลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมในพื้นที่สำคัญทางการแพทย์
ส่วนที่อำเภอทับสะแก ซึ่งเป็นอำเภอสุดท้ายของโซนใต้ คณะได้ตรวจสอบบริเวณวัดอ่างทอง ตำบลอ่างทอง เพื่อติดตามการระบายน้ำใต้สะพานที่ใช้ระบายน้ำในช่วงฝนตก โดยได้รับการสนับสนุนจากแขวงทางหลวงในการปิดกั้นถนนในกรณีที่จำเป็นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์และการลงพื้นที่ในครั้งนี้ พบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการเตรียมความพร้อมในหลายด้าน ทั้งการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ระบบระบายน้ำ และการเฝ้าระวัง จึงมีความมั่นใจว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีความพร้อมในการจัดการสถานการณ์ฝนตกหนักและพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนหากเกิดอุทกภัย โดยมอบหมายให้สำนักงานปภ.จังหวัด เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับทุกอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป.
