ตำรวจนครบาล 191 สนธิกำลังตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ รวบผู้ต้องหา 4 ราย ขนยาบ้า4หมื่นเม็ด ยาไอซ์อีกเกือบ 4กิโลกรัม มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ได้คาด่านตรวจสามร้อยยอด ขณะขับรถมุ่งหน้าลงใต้ หลังตามตัวอยู่นานกว่า 3 เดือน ช่วงโควิด-19 เก็บตัวเงียบ พอปลดล็อค รีบลงใต้ส่งยา แต่ไม่รอด!
วันที่ 1 มิถุนายน 2563 พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง สว.งานสายตรวจ 3 บก.สปพ. ติดตามตัวผู้ต้องหาค้ายาบ้ารายใหญ่ มีพฤติกรรมลักลอบส่งยามานาน กระทั่งตรวจพบความเคลื่อนไหวเป้าหมายขับรถออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าลงใต้
ทั้งนี้ ร.ต.อ.ฉัฐวัฒน์ สิริเบญจศักดิ์ รอง สว.งานสายตรวจ 3 บก.สปพ. หรือ นครบาล 191 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเป้าหมาย ซึ่งขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีดำ ตอนครึ่ง มีลูกกรงที่ท้ายกระบะและมีตระกร้าพลาสติกสี่เหลื่ยมหลายใบวางอยู่ที่ท้ายกระบะ หมายเลขทะเบียน 1ฒน943กรุงเทพมหานคร ออกจากกรุงเทพ มุ่งหน้าศาลายา จ.นครปฐม ผ่านมาที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และลงใต้ จึงได้ประสาน พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ แจ้งด่านตรวจถาวร สภ.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสกัดรถต้องสงสัยดังกล่าว
พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังได้รับการประสานจาก 191 ที่ติดตามเป้าหมายมา ได้สั่งให้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย ผกก.สภ.สามร้อยยอด , พ.ต.ท.วิชาญ ยศชู รอง ผกก.ป ฯ , พ.ต.ท.กมลาสน์ อรุณภาคมงคล รอง ผกก.สส.สภ.สามร้อยยอด พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจถาวร สภ.สามร้อยยอด เฝ้าสังเกตุรถเป้าหมาย เมื่อพบขับมาถึงด่านตรวจ ได้บังคับรถยนต์กระบะให้จอด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวบุคคลที่อยู่ในรถคันดังกล่าว พบ นายบุรินทร์ภัทร (ขอสงวนนามสกุล) ชายคนขับรถ , นางสาวพจนีย์ (ขอสงวนนามสกุล) แขวงตลิ่งชัน กรุงเทพฯ , นางสาววรัชญา (ขอสงวนนามสกุล) , นางสาวสำลี (ขอสงวนนามสกุล) รวม 4 ราย
เมื่อตรวจค้นภายในห้องโดยสาร พบถุงพลาสติกสีฟ้าลายการ์ตูน วางอยู่ในแค็ป หลังที่นั่งคนขับรถ เปิดดูภายในพบห่อยาบ้า 4 มัดใหญ่ จำนวน 40,000 เม็ด และไอซ์บรรจุอยู่ในถุงชาจีน น้ำหนัก 3.7กิโลกรัม สำหรับราคาจำหน่ายยาบ้าอยู่ที่เม็ดละ 100บาท มูลค่า 400,000 บาท ไอซ์ กรัมละ 800 บาท มูลค่า 2,960,000 บาท รวมมูลค่ายาเสพติดครั้งนี้ 3,360,000 บาท
ร.ต.อ.ฉัฐวัฒน์ สิริเบญจศักดิ์ รอง สว.งานสายตรวจ 3 บก.สปพ. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเป้าหมายมานานกว่า 3เดือน ซึ่งมีพฤติกรรมลักลอบส่งยาบ่อยครั้ง แต่ยังไม่สามารถจับกุมได้เนื่องจากเป้าหมายหวั่นตัวและระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ประกอบกับในช่วงโควิด-19 พบว่าเก็บตัวเงียบไม่เคลื่อนไหว กระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าอยู่พบว่า มีการขับรถออกจากบ้านพักที่กรุงเทพฯ มุ่งหน้า อ.ศาลายา จ.นครปฐม ก่อนเลี้ยวมาทาง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร รับผู้โดยสารเพิ่มอีก 2คน จากนั้นขับมาถึง จ.เพชรบุรี จึงคาดว่าจะลงภาคใต้เพื่อส่งยาเสพติด จึงได้ประสาน ตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ สกัดรถเป้าหมายดังกล่าว
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมด ยังให้การภาคเสธ ปฏิเสธไม่รู้เห็นยาเสพติดดังกล่าว อ้างว่ามีการว่าจ้างให้ขับรถยนต์กระบะมาเพื่อมาซื้อผลไม้ ที่ จ.ระนอง ในขณะที่หญิงอีก 2คนที่ขึ้นมาจาก อ.กระทุ่มแบน ให้ข้อมูลว่า ขอติดรถมาด้วยโดยไม่รู้ว่ามีการขนยาเสพติด ตั้งใจจะติดรถมาเพื่อมาดูบ้าน ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เท่านั้น
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีการติดตามดูพฤติกรรมมานาน ทั้งนี้ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง กลับกรุงเทพฯ เพื่อสอบปากคำและขยายผลหาผู้ร่วมกระบวนการยาเสพติดต่อไป
