ตำรวจหัวหิน รวบ 3 ผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในในบาร์ซอย หัวหิน 112 หวังข่มขู่เจ้าของร้าน ที่มีเรื่องทะเลาะตบดีกัน แต่กระสุนพลาดไปเจาะร่างสาวเสิร์ฟดับ
วันที่ 22 สิงหาคม 2563 พลตำรวจตรีสุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พันตำรวจเอกไพทูลย์ พรมเขียน ผู้กำกับการ สภ.หัวหิน ร่วมกันชี้แจงความคืบหน้าคดี คนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับขี่ จยย. ใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในบาร์แห่งหนึ่ง ปากซอยหัวนา 4 ภายในซอยหัวหิน 112 หัวนา เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 20 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา
โดยกระสุนเจาะเข้าที่ด้านหลังบริเวณลำคอ และหลัง ของ น.ส.สุธิดา หรือ น้องเมย์ หนูนะ อายุ 23 ปี พนักงานในร้าน ขณะนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือหันหลังออกถนน ล้มฟุบหมดสติทันที และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นได้หลบหนีไป
โดยทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต เตรียมเดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมกับ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากทางครอบครัวมั่นใจว่า เป็นการยิงผิดคน ผู้ตายเพิ่งมาทำงานที่หัวหินได้เพียงเดือนเศษ และไม่เคยมีเรื่องทะเลาะบาดหมางกับใคร
ทางด้าน พลตำรวจตรีสุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้แล้ว 3 ราย คือ นางสาวสายฝน (สงวนนามสกุล) ผู้จ้างวาน ,นายจักรพันธ์ หรือกี้ อายุ 23 ปี (คนขับ จยย.) และนายไท้ ชาวกัมพูชา อายุ 19 ปี (มือปืน) พร้อมของกลางที่ใช้ก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน กยว 971 เพชรบุรี พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายไปสอบปากคำ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ วันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา นางสาวสายฝน มีเรื่องทะเลาะตบตีลงไม้ลงมือกับนายอิศรา หรือแจ้ ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน เรื่องโกงเงินค่าแชร์ จากนั้นนางสาวสายฝนได้ไปปรึกษานายวรพจน์หรือตั้ม ให้ช่วยสั่งสอนนายอิศรา หรือ แจ้ เจ้าของร้าน
จากนั้นวันที่ 20 สิงหาคม นางสาวสายฝน กับนายธนากร แฟนหนุ่ม พร้อมด้วย นายวรพจน์หรือตั้ม และนายไท้ ชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นมือปืน ได้นัดรวมตัวกันเพื่อวางแผนและเตรียมอาวุธปืน เป็นลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์
จากนั้นนายวรพจน์หรือตั้ม ได้ขับรถเก๋งพานายไท้ ชาวกัมพูชา ไปเจอ นายจักรพันธ์ หรือกี้ ซึ่งขับขี่รถจักรยายนต์ มาจอดรออยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อไปก่อเหตุ โดยนายกี้ เป็นขับ จยย. มีนายไท้นั่งซ้อนท้ายไปและเป็นผู้ลงมือยิง เมื่อก่อนเหตุแล้วได้ขับรถหลบหนึไปที่ ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยนายกี้ คนขับรถ จยย. และนายไท้ มือปืน ได้รับค่าจ้าง แค่คนละ 2,000 บาทเท่านั้น
ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับการว่างจ้างให้ก่อเหตุเพื่อยิงข่มขู่เจ้าของร้าน ส่วนนางสาวสุธิดา พนักงานเสิร์ฟที่เสียชีวิต ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แต่มาถูกลูกหลงจนเสียชีวิตดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลืออีก 1 คน คือนายวรพจน์หรือตั้ม มาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
