เป็นข่าว » ปราณบุรี | จบด้วยดี ป้าแก้วเผย “ดคีลักทรัพย์รถ จยย.” ที่แท้รับจำนำรถไว้ ล่าสุดเจ้าของรถตกลงผ่อนคืนเงินแล้ว

ปราณบุรี | จบด้วยดี ป้าแก้วเผย “ดคีลักทรัพย์รถ จยย.” ที่แท้รับจำนำรถไว้ ล่าสุดเจ้าของรถตกลงผ่อนคืนเงินแล้ว

6 กันยายน 2020
987   0

จบคดีด้วยดี! ป้าแก้วเผย ดคีลักทรัพย์รถ จยย.ที่แท้รับจำนำรถไว้ ล่าสุดเจ้าของรถตกลงผ่อนคืนเงินแล้ว ด้าน ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ขอประชาชนติดตั้งกล้องวงจรปิด ช่วยปกป้องทรัพย์สินตนเอง และได้ช่วยเหลืองานราชการตำรวจ เวลามีเหตุจะคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็ว

วันที่ 6 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี นางพรอุษา สืบสมบัติ หรือ ป้าแก้ว อายุ 60 ปี แม่ค้าขายโจ๊กตลาดปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าแจ้งความที่ สภ.ปราณบุรีว่า รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีมซุปเปอร์คัพ สีเขียวหัวเป็ด จอดไว้หน้าร้านหมูสมนึก หายไป โดยมีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2563 นั้น  

นางพรอุษา สืบสมบัติ หรือ ป้าแก้ว แม่ค้าขายโจ๊กตลาดปราณบุรี เปิดเผยว่า ล่าสุดเช้านี้ ได้เดินทางเข้าพบร้อยเวรเจ้าของคดีชื่อ ร.ต.อ.กรชวัล จันทร์ศีริ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปราณบุรี พร้อมด้วย นางสาวปิยะนุช (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ครอบครองรถ ซึ่งได้นำหลักฐานเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ทั้งนี้เพื่อเจรจาตกลงในคดีแจ้งความลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ดังกล่าว

ทั้งนี้จากการสอบสวนแล้วทราบว่า รถจักรยานยนต์ดังกล่าวยี่ห้อ ฮอนด้า สีเขียวขาว หมายเลขทะเบียน 1กจ2949 ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อประมาณ 3 ปีกว่า เพื่อนของ นางสาวปิยะนุช (ขอสงวนนามสกุล) ชื่อนายเอ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ได้นำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาฝากจำนำไว้กับ ป้าแก้ว โดยได้ขอยืมเงิน ไปจำนวน 6,000 บาท

กระทั่งวันเกิดเหตุ ป้าแก้ว ได้ขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดหน้าร้านหมูสมนึกเพื่อซื้อของ นายสังวร (ขอสงวนนามสกุล) สามีของ นางสาวปิยะนุช ได้มาพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวและได้ใช้กุญแจที่ติดตัวมา ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวกลับไปไว้ที่บ้าน โดยที่ไม่ทราบว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ถูกนำมาฝากหรือจำนำไว้กับป้าแก้ว เนื่องจากทั้งคู่ระบุว่า เดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัด จึงเป็นที่มาของการแจ้งความลักทรัพย์ดังกล่าว

ทั้งนี้นางสาวปิยะนุช ตกลงชดใช้เงินจำนวน 6,000 บาท คืนป้าแก้ว โดยแบ่งจ่ายเดือนละ 600 บาท ระยะเวลา 10 เดือน โดยขอรับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวกลับคืนไปในวันนี้ จึงจบคดีลักทรัพย์หน้าร้านหมูสมนึกด้วยดี ถือเป็นการเข้าใจผิดระหว่างเจ้าของรถกับผู้เสียหาย จึงไม่มีการลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ตามที่เข้าใจกันแต่อย่างใด

ทางด้าน พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรณีการลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ หรือเหตุต่างๆ ได้สั่งการให้ทุกสถานีในท้องที่ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เร่งรัดคดีเพื่อนำทรัพย์สินกลับมาคืนประชาชนโดยเร็วที่สุด แต่ทั้งนี้ในบางคดีพบอุปสรรคสำคัญคือภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ไม่ชัดเจน หรือบางพื้นที่ไม่มีกล้องติดตั้งไว้ ทำให้การแกะรอยคนร้ายทำได้ยากลำบาก

จึงอยากจะฝากขอความร่วมมือจากประชาชนหรือร้านค้า ช่วยกันติดตั้งกล้องวงจรปิดคุณภาพสูงไว้ที่หน้าบ้านหรือหน้าร้าน ประโยชน์สำคัญคือการปกป้องทรัพย์สินของตนเอง และยังได้ช่วยเหลืองานราชการตำรวจ เวลามีเหตุต่างๆ จะสามารถดูย้อนหลังเพื่อติดตามพฤติกรรมของคนร้ายให้สามารถคลี่คลายคดีต่างๆได้อย่างรวดเร็ว