เป็นข่าว » ประจวบคีรีขันธ์ | แม่ค้าโอดครวญทุนจม “คนละครึ่ง-เราชนะ” เงินเข้าระบบช้า

ประจวบคีรีขันธ์ | แม่ค้าโอดครวญทุนจม “คนละครึ่ง-เราชนะ” เงินเข้าระบบช้า

23 กุมภาพันธ์ 2021
1635   0

Cr.พลไชย ภิรมย์ศรี/ประจวบคีรีขันธ์ 

แม่ค้าโอดครวญทุนจม “คนละครึ่ง-เราชนะ” เงินเข้าระบบช้า แถมเป็นเบี้ยหัวแตก แม้จะส่งผลดีแม่ค้าขายดีขึ้น แต่ต้องเดือดร้อน หาทุนสำรองมาเพิ่ม เพราะหมุนเงินสดไปซื้อวัตถุดิบมาขายไม่ทัน

วันที่  23  กุมภาพันธ์  2564  บรรยากาศค้าขายบริเวณสวนสาธารณะ  ถนนเลียบชายทะเล  หน้าอ่าวประจวบ  ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์  ซึ่งมีร้านขายอาหารช่วงเย็นหลายสิบร้าน จากการสำรวจพบว่า ร้านค้าส่วนใหญ่ร่วมรายการคนละครึ่งและเราชนะ ซึ่งเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลให้ประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าและลดค่าครองชีพจากสถานการณ์โควิด-19 

ปรากฏว่า บรรดาพ่อค้าแม่ขายเกือบทุกร้านต่างส่งเสียงบ่นเหมือนกันว่า โครงการคนละครึ่งและเราชนะของรัฐบาล มีข้อดีคือทำให้มีลูกค้ามาซื้อของมากขึ้น เรียกได้ว่าขายดีขึ้น แต่เกิดปัญหาคือ เงินไม่เข้าบัญชีทันที ทำให้แม่ค้าไม่มีเงินสดในมือ มีแค่ตัวเลขทางบัญชีกว่าที่ตัวเงินจะถูกโอนผ่านธนาคาร

ต้องใช้เวลา 24 ชั่วโมง หรือในวันรุ่งขึ้นบางที 1-2 วันกว่าจะมีเงินเข้า ซึ่งสวนทางกับความเป็นจริงที่แม่ค้าต้องใช้เงินสดซื้อของเข้าร้าน ซื้อวัตถุดิบมาขายของ ซึ่งต้องใช้เงินทุกวันแต่ไม่มีเงินเข้าทันที ทำให้เงินขาดมือ จนต้องหยิบยืมคนอื่นหรือกู้เงินนอกระบบเลยทีเดียว

นางธิติวรรณ  ไพบูลย์อัตถกิจ  อายุ 49 ปี   แม่ค้าร้าน สถานีเครปนานา  เล่าว่า  ที่ร้านของตนร่วมรายงานโครงการของรัฐบาลทั้งคนละครึ่งและเราชนะ ปิดการขายแต่ละวันเวลา 23.00 น.   และเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีผ่านธนาคาร ในวันถัดไปเวลา 23.00 น.  ซึ่งใช้เวลา 24  ชั่วโมง 

ขณะที่แม่ค้าส่วนใหญ่  ต้องซื้อวัตถุดิบเพื่อเตรียมทำของขายทุกวันในช่วงเช้า  แต่ไม่มีเงินสด มีแต่ตัวเลขในระบบซึ่งไม่มีเงินเข้าบัญชี  ทำให้ต้องหาทุนสำรองออกไปก่อน  แถมเข้ามาเป็นเบี้ยหัวแตก แม่ค้าหลายรายใช้เงินหมุนวันต่อวัน ไม่มีเงินเหลือพอจะไปซื้อวัตถุดิบได้ทำให้ต้องเดือดร้อน

ส่วนตัวมีเพื่อนร้านข้างเคียงมาหยิบยืมเงินสด ครั้งละ  200 – 500 บาท เพื่อนำไปซื้อวัตถุดิบมาขาย เมื่อขายได้ตอนเย็นก็นำเงินสดมาคืน   แม่ค้าบางเจ้าขายของที่ราคาไม่สูง เช่น ของปิ้งย่าง ของทอด หรือเครื่องดื่ม  ที่มีราคาชิ้นละ 10 -20  บาท  อาจมีต้นทุนในการซื้อวัตถุดิบแต่ละวันไม่สูงมากนัก

สำหรับร้านของตน ราคาเครปตั้งแต่ 30 – 120  บาท  ขึ้นอยู่กับท๊อปปิ้งหน้าที่ใส่เครป ทำให้มีต้นทุนซื้อวันถุดิบแต่ละวัน 1000 – 2000  บาท  เมื่อรายได้น้อยไม่มีทุนสำรอง แม่ค้าหาเช้ากินค่ำ ต้องใช้เงินหมุนทุกวัน ทำให้เดือดร้อนเช่นกัน

จึงอยากให้รัฐบาลออกมาตรการโอนเงินเข้าระบบที่เร็วกว่านี้   หากสามารถโอนเงินเข้าบัญชีได้เร็วกว่านี้ ทุกเช้าของวันถัดไปได้จะเป็นเรื่องที่ดี  เพราะแม่ค้าสามารถนำเงินไปซื้อวัตถุดิบได้ทันที

ทางด้าน นางพิไลพร  ไทยถนอม  อายุ 30  ปี  แม่ค้าร้านตั๊กปลาเผา กล่าวเสริมด้วยว่า ที่ร้านขายปลานิล ปลากระพงเผา  ราคาจำหน่ายตัวละ 160 – 250  ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของปลา  ต้องใช้เงินซื้อวัตถุดิบวันละ  4,000 –  5,000 บาท 

ยอดขายร้อยละ 80  มาจากการซื้อขายผ่านระบบแอพเป๋าตังค์ ทั้งโครงการคนละครึ่งและโครงการเราชนะ  อยากขอบคุณรัฐบาลที่มีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ประชาชนบรรเทาความเดือดร้อน  แม้แม่ค้าขายของได้มากขึ้นแต่เงินสดไม่มีหมุน  แต่อยากให้จ่ายเงินเข้าระบบเร็วกว่านี้   เพราะตนต้องแบกค่าใช้จ่ายที่สูงทุกวัน ทำให้ต้องเดือดร้อนเหมือนกัน