อาชีพพารวย » สามร้อยยอด | หนุ่มสามร้อยยอด พลิกชีวิต “เลี้ยงปูนาระบบน้ำใส” สร้างเงินแสน (มีคลิป)

สามร้อยยอด | หนุ่มสามร้อยยอด พลิกชีวิต “เลี้ยงปูนาระบบน้ำใส” สร้างเงินแสน (มีคลิป)

4 กุมภาพันธ์ 2021
3217   0

พิษเศรษฐกิจพัง บวก โควิด-19 หนุ่มสามร้อยยอด เจ้าของไร่สับปะรดและนากุ้งแทบทรุดขาดรายได้ ต้องหันมา “เลี้ยงปูนาระบบน้ำใส” ทั้งส่งขายและแปรรูป ช่วยพลิกชีวิตสร้างรายได้นับแสนบาทต่อเดือนเลี้ยงครอบครัวได้สบาย แถมพัฒนาฟาร์มเป็นศูนย์เรียนรู้ สอนผู้ที่สนใจเลี้ยงปูนาแบบฟรีๆด้วย 

วันที่ 4 กุมภาพันธ์  2564  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ “ฟาร์มโอชาปูนา”  เลขที่ 509  หมู่ 3  ตำบลไร่เก่า  อำเภอสามร้อยยอด  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์   ซึ่งเจ้าของฟาร์มคือ นายโอชา  รัศมีลิ่มทอง   อายุ  33  ปี หรือคุณเล้ง  ได้ปรับปรุงเพื้นที่ว่างเปล่าบริเวณหลังบ้าน สร้างบ่อดินและบ่อปูน สำหรับเลี้ยงปูนาระบบน้ำใส เป็นฟาร์มขนาดย่อมๆแต่ให้ผลผลิตจำหน่ายได้เดือนละ 5 หมื่น – 1 แสนบาทเลยทีเดียว

พร้อมทั้งยังต่อยอดฟาร์มปูนา กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้เพื่อสอนให้กับประชาชนที่สนใจอยากเลี้ยงปูนาเป็นสร้างรายได้เสริม หรือรายได้หลัก กันแบบฟรีๆไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย 

นายโอชา  รัศมีลิ่มทอง หรือคุณเล้ง เจ้าของโอชาฟาร์มปูนา  เล่าให้ฟังว่า  ตนเริ่มเลี้ยงปูนาตั้งแต่ประมาณ 2 ปีที่แล้ว ก่อนวิกฤติโควิด-19 ครั้งแรกเล็กน้อย ตอนนั้นเศรษฐกิจเริ่มแย่ ทรงและทรุดตัวเรื่อยๆ ตนเคยทำไร่ปลูกสับปะรดและเลี้ยงกุ้ง ต้องประสบปัญหาขายไม่ได้ ส่งออกไม่ดี ทำให้ได้รับผลกระทบขาดทุนสะสมเรื่อยๆ จึงเริ่มคิดหาช่องทางประกอบอาชีพอื่น  

กระทั่งมีเพื่อนแนะนำให้เลี้ยงปูนาขาย  จึงตัดสินใจเริ่มศึกษาขั้นตอนการเลี้ยงปูนาอย่างจริงจังและลงมือทดลองเลี้ยงปูนาทันที เมื่อทดลองเลี้ยงไปได้ประมาณ 3-4 เดือน เริ่มมั่นใจว่าเลี้ยงได้ อัตราการตายน้อย และเริ่มขายได้แล้ว  จึงมีความคิดว่าถ้าสามารถศึกษาขั้นตอนการเพาะขยายพันธุ์ปูนาด้วยตนเองได้ จะช่วยลดต้นทุนการซื้อพ่อแม่พันธุ์ไปได้มาก เพราะในช่วงแรก จะต้องไปซื้อพ่อแม่พันธุ์มาเลี้ยงก่อน

กระทั่งสามารถขยายพันธุ์ได้เอง ทางฟาร์มมีปูนาจำหน่ายให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่ลูกปูขนาดเล็กเพื่อนำไปเลี้ยงต่อ ปูนาขนาดกลางสำหรับนำไปแปรรูปเป็นอาหาร เช่น ปูนาดอง ฯลฯ ซึ่งมีความต้องการของตลาดจำนวนมาก

รวมทั้งมีปูนาขนาดใหญ่ ที่นำไปเป็นพ่อแม่พันธุ์ได้ เรียกได้ว่าที่ฟาร์มมีปูนาครบวงจร ทำให้โอชาฟาร์มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งที่ฟาร์มเลี้ยงปูนาระบบน้ำใส ทำให้ได้ปูนาคุณภาพดี สะอาด มันปูเยอะ เป็นที่ต้องการของตลาด

หลังจากเลี้ยงปูนามาได้ประมาณ 1 ปี เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น โดยลูกค้าหลักมาจากการซื้อขายออนไลน์ ทางเฟซบุ๊ก ทำให้มีคนรู้จักมากขึ้น  จากนั้นทางโอชาฟาร์ม ได้รวมกลุ่มเพื่อนที่เลี้ยงปูนาในหลายจังหวัด ตั้งชื่อกลุ่มเป็น ปูนาสี่ภาค เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้น เพิ่มโอกาสในการจำหน่ายปูนาได้มากขึ้นด้วย

นอกจากนั้นทางฟาร์มยังได้เปิดโอกาสให้กับผู้ที่สนใจอยากสร้างอาชีพเสริมหรือจะทำเป็นอาชีพหลัก ได้เข้ามาศึกษาดูงาน เรียนรู้การเลี้ยงปูนาที่ฟาร์มได้ฟรี และยังจัดอบรมนอกสถานที่ไปตามจังหวัดต่างๆด้วย เช่น ที่ จ.อ่างทอง, ชุมพร, ร้อยเอ็ด เป็นต้น 

ทั้งนี้ตนเริ่มต้นจากไม่มีความรู้อะไรเลย เริ่มศึกษาข้อมูลและทดลองเลี้ยง เริ่มแรกนั้นทดลองเลี้ยง ปูนา 20 คู่ ในกระชัง 1 ลูก เลี้ยงได้ประมาณ 20 วัน พบว่ามีปูตายไป 4 ตัว รู้สึกว่าน่าจะเลี้ยงได้ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้แค่ใช้น้ำประปา ให้อาหารวันละ 1 มื้อ จากนั้นจึงเริ่มสร้างบ่อปูนซีเมนต์ และบ่อดิน จำนวน 2 บ่อ และทดลองเลี้ยงเพิ่มอีก 100 คู่ 

ซึ่งระหว่างนี้ได้ศึกษาพฤติกรรมการกิน การนอน การอยู่อาศัยของปู และการออกลูกของปูนา  โดยพบว่าปูนา 1 ตัว จะออกลูกได้ประมาณ 500 ตัว  ถ้าเป็นตัวใหญ่จ

ะสามารถออกลูกได้ 500-700  ตัว  หลังจากคลอดลูกแล้ว เลี้ยงต่อไปประมาณ  4 เดือน จะเริ่มจับขายได้แล้ว

โดยเมื่อเปรียบเทียบปริมาณการเลี้ยงพบว่า ผลผลิตในบ่อดินได้จำนวนปูนามากกว่าบ่อปูน  จึงแนะนำให้เลี้ยงในบ่อดิน เพราะบ่อดินเป็นบ่อธรรมชาติดีที่สุด ปูนาจะออกลูกได้มากกว่า พอปูตัวใหญ่ จะย้ายมาพักในบ่อปูน จนแข็งแรงจึงส่งต่อให้ลูกค้า 

แต่หากบ้านใครพื้นที่ไม่เหมาะสมที่จะสร้างบ่อดิน ก็สามารถเลี้ยงในบ่อปูน หรือรองปูน ตามสภาพพื้นที่ได้ เพียงแต่สิ่งสำคัญคือ จะต้องมีสถานที่หลบภัยให้ปูนา จะเป็นแผนกระเบื้องหลังคา หรือก้อนหินวางเรียงกันก็ได้ และต้องมั่นดูแลเรื่องน้ำในบ่อให้ใสไม่ขุน ไม่สกปรก เพื่อให้ได้ปูนาคุณภาพดีที่สุด

ส่วนเรื่องการให้อาหาร  ปูนาจะกินอาหารแค่วันละมื้อเท่านั้น  ทำให้ต้นทุนค่าอาหารน้อยมาก  ปู  100 คู่จะเสียค่าอาหารประมาณ 500 บาท ซึ่งอาหารที่นำมาเลี้ยงปูนานั้น เป็นสูตรพิเศษที่ตนคิดสูตรขึ้นมาเอง

โดยอาศัยความรู้จากการเลี้ยงกุ้งในอดีต มาปรับปรุงสูตรให้เหมาะสมกับปูนา ผลิตเป็นอาหารปรุงสำเร็จรูป เพื่อความสะดวก โดยใช้ปลาป่นเป็นส่วนผสมสำคัญ เพราะปูเป็นสัตว์กินเนื้อ โดยสูตรอาหารนี้ ช่วยให้ ปูโตไวและมีมันปูเยอะ เป็นที่ต้องการของตลาด

โดยเริ่มเลี้ยงตั้งแต่เป็นลูกปู ระยะเวลา 4 เดือน จะเริ่มทยอยจับขายได้ ทางฟาร์มจะคัดเลือกพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ แยกไว้ ตัวไหนตายในบ่อสามารถเก็บไปแปรรูปได้ แยกส่วนเนื้อ ส่วนมันปู แช่เย็นไว้ขายได้ทั้งหมด

ลูกค้าส่วนหนึ่งจะซื้อไปเลี้ยงต่อ ทางฟาร์มจะแพ็คใส่แก้วพลาสติกเจาะรู ใส่ 1 ตัวต่อ 1 ใบ เพื่อป้องกันการตายขณะขนส่ง จำหน่ายในราคาคู่ละ 100 บาท เพียง 2-3 วัน ถึงมือลูกค้า สามารถนำไปเลี้ยงต่อได้เลย รวมทั้งขายส่งให้ลูกค้านำไปแปรรูปเป็น ปูนาดอง ขายในร้านส้มตำด้วย   

นอกจากนั้นทางกลุ่มปูนาสี่ภาคฯ ยังแปรรูปเอง เป็นสินค้าหลายอย่าง  เช่น  น้ำปลาร้าปูนา, น้ำพริกมันปู, น้ำพริกปูนาปลาย่าง, น้ำพริกนรกปูนา, ปลากจิ้งจั้งปูนา, ทองม้วนมันปู, คุกกี้มันปูนา, ปูดอง, ปูสามรส เป็นต้น  โดยส่งปูนาเข้าโรงงานเพื่อแปรรูปออกมาตามสูตร 

ซึ่งปู 1 ตัว สามารถใช้ได้ทุกส่วนในการแปรรูป ทำอาหารได้ทั้งของคราวและขนม อย่าง คุกกี้มันปูนา ที่เพิ่มความพิเศษให้กับคุกกี้ธรรมดา เพิ่มความมันของ มันปู เข้าไปปรับปรุงสูตรให้อร่อย และไม่มีกลิ่นคาว  เป็นสูตรที่ทางทีมงาน 4 ภาคได้ช่วยกันคิดขึ้นมา

สำหรับใครที่สนใจทางฟาร์ม มีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปูนาจำหน่าย  พร้อมทั้งเปิดรับคอนแทค ร่วมเป็นลูกฟาร์มของโอชาฟาร์มได้ด้วย ซึ่งจะได้รับสิทธิพิเศษ คือลูกค้าคอนแทค จะได้พันธุ์ปูนา ได้สูตรน้ำพริก การันตีการรับซื้อปูนาคืน ในราคาที่สูงกว่าลูกค้าทั่วไปโดยที่ไม่ต้องทำตลาดเอง พร้อมทั้งจัดอบรมเสริมความรู้ให้ทั้งหมด 

ซึ่งถ้าใครมาซื้อพ่อแม่พันธุ์ปูนาจากฟาร์มเราไปเลี้ยง ทางฟาร์มการันตีรับซื้อปูนาที่เลี้ยงจนโตได้ขนาดทั้งหมด พร้อมดูแล ให้คำปรึกษาทุกเรื่อง ใครที่สนใจสามารถ ติดต่อสอบถามได้ที่ เฟซบุ๊ก “โอชาฟาร์มปูนา” หรือโทรสอบถามได้ที่  063-372-4285 ได้ทุกวัน