“อนุทิน” นำ “รมต.ภูมิใจไทย” ลงสตูล เปิดโครงการ “ยางพาราไทย เพิ่มความปลอดภัยในทุกเส้นทาง” ฟุ้งผลงานทำราคายางพุ่ง ยืนยันราคาไม่หยุดแค่ 60 บาท พร้อมเผยถึง อสม.วันที่ 21 ก.ย.นี้ เปิดบัญชีธนาคารรอรับเงินทุกคนๆละ 3,500บาท ตอบแทนความเสียสละที่ร่วมดูแลต่อสู้โควิด-19 คาดอีก 1 ปี ไทยมีวัคซีนเอง
วันที่ 6 กันยายน 2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข หน.พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม , น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาเปิดโครงการ “ยางพาราไทย เพิ่มความปลอดภัยในทุกเส้นทาง” ที่บริเวณชุมชนบ้านคลองน้ำเค็ม ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล
โดยมีนายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผวจ.สตูล , นายพิบูลย์ รัชกิจประการ นายวรศิษฏ์ เลียงประสิทธิ์ ส.ส.จ.สตูล พรรคภูมิใจไทยทั้ง 2 เขต หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคม รวมทั้งกลุ่มชาวบ้านสหกรณ์สวนยางจ.สตูล และอสม.มารอต้อนรับกว่า 3 พันคน
สำหรับโครงการดังกล่าวรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ 1 ล้านตัน ภายใน 3 ปี ตั้งแต่ปี 63-65 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรจากปัญหาราคายางตกต่ำ ยางล้นตลาด ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้เน้นย้ำให้กระทรวงคมนาคมนำผลิตผลจากยางพารามาเป็นส่วนผสมในการก่อสร้างซ่อมบำรุงถนนและเป็นอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น
โดยยางพาราที่นำมาใช้ต้องเป็นรูปแบบที่สามารถผลิตเองภายในประเทศเพื่อส่งเสริมการใช้ยางพารา ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรและกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่ง จ.สตูลถือเป็นจังหวัดนำร่องจังหวัดแรกที่ชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางสตูล จำกัด ร่วมกับเครือข่ายสหกรณ์จ.สตูลผลิตแผ่นยางธรรมชาติครอบกำแพงคอนกรีต(Rubber Fender Barrier)
โดยขณะนี้สามารถนำไปวางเป็นเกาะกลางถนนแล้วระยะทาง 9 กม.600 เมตร และในการเปิดตัวโครงการที่ จ.จันทบุรี ก็เป็นแผ่นยางธรรมชาติครอบแท่งเบอรีเออของจ.สตูลเช่นกัน หลังพิธีเปิดได้เยี่ยมชมการสาธิตการผลิตผลิตภัณฑ์จากยางพารา ของจ.สตูล ซึ่งประกอบด้วยเสาหลักทางโค้ง แผ่นยางครอบแท่งเบอรีเออ รองเท้ายาง เก้าอี้ ตุ๊กตา หมอน จิ๊กซอพื้นยางพารา ฯลฯ
น.ส. มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตนเองมาพบชาว จ.สตูล บ่อยครั้งเพื่อมาผลักดันเรื่องราคายางพารา เพื่อให้เกษตรกรไม่ถูกกดราคายางพารา โดยกระทรงเกษตรฯและกระทรวงคมนาคมร่วมมือกัน ซึ่งกระทรงคมนาคมเป็นผู้ผลิตแบริเออร์ โดยความร่วมมือร่วมใจของกระทรวงเกษตรและกระทรวงคมนาคมและไม่มีคนกลาง เงินทั้งหมดจะอยู่ในกระเป๋าเกษตรกรชาวสวนยางพารา และเป็นที่ทราบกันดีว่าตอนนี้ราคายางพาราขึ้นกก.ละ 60 บาท ซึ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี
ชาวสวนยางพาราไม่เคยได้รับราคายางแบบนี้มาก่อน ต่อไปราคายางไม่ได้อยู่แค่ กก.ละ 60 บาท ราคายางพาราอาจจะสูงขึ้นอีก หากเราไม่นำมาใช้ทำแบริเออร์ราคายางคงไม่สูงขนาดนี้ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นต้องอยู่ในระบบของสหกรณ์พี่น้องประชาชนสมาชิกต้องร่วมมือกัน สำหรับกระกรวงเกษตรไม่ว่าในยามไหนเราจะอยู่เคียงข้างประชาชน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า การใช้ยางพาราเพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ได้รับการทดสอบภาคสนามจากสถาบันประเทศเกาหลี ลดแรงกระแทกเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมจับมือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อไปจะรับซื้อน้ำยางจากพี่น้องปีละ 1 ล้านตัน สถานการณ์ราคายางและโควิด ทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนมากขึ้น
โครงการดังกล่าวทำให้ราคายางปรับขึ้นและในอนาคตจะสูงกว่า 60 บาท รวมทั้งกระทรวงคมนาคมเองได้รับการประสานงานจากส.ส.ในพื้นที่ เรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสตูล จึงบรรจุ 5 โครงการลงในพื้นที่ จ.สตูล ในปี 64และ65 คือในปี 64 ก่อสร้างถนน 4 ช่องจราจรจากนาลานไปเจ๊ะบิลัง ระยะทาง 8 กม. เป็นถนน 4 ช่องจราจร ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี ปี 65 ประกอบด้วย
1 ก่อสร้างทางทุ่งตำเสาถึงแยกสวนเทศ งบประมาณ 800 ล้านบาท เพิ่มจาก 2 ช่องเป็น 4 ช่องจราจร 2 โครงการทุ่งยาว-คีรีวง อ.ทุ่งหว้าระยะทาง 17 กม.งบประมาณ 770 ล้านบาทเป็นถนน 4 ช่องจราจร 3ทางเลี่ยงเมืองทุ่งหว้า งบประมาณ 1500 ล้านบาท 4 อ.ทุ่งหว้า –ทุ่งเสม็ด ระยะทาง 15 กม. 440 ล้านบาท รวม 5 โครงการงบประมาณ 3,800 ล้านบาท โครงการเรื่องยาพารา ทำให้พี่น้องมีรายได้เพิ่มขึ้นสม่ำเสมอ ทำให้ได้ดูแลลูกหลานกันต่อไปอย่างมีความสุข
นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวว่า รมว.พรรคภูมิใจไทย ได้ใช้เวลาว่างในวันหยุดยาว 4 วันตรวจราชการในจังหวัดภาคใต้ ติดตามงานต่างๆที่จัดสรรลงมาตามคำสัญญาของส.ส.ในพื้นที่ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้อนุมัติงบประมาณ 80 ล้านบาทในการสร้างอาคารผู้ป่วยในรพ.ละงู ส่วนเรื่องการต่อสู้กับโควิดนั้นนายกรัฐมนตรีฝากขอบคุณ อสม.ที่ทำให้ไทยต่อสู้กับโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะมี อสม.คอยดูแล
ซึ่งวันที่ 21 ก.ย.นี้ให้ อสม.ไปเปิดบัญชีธนาคารได้เลยจะมีการโอนเงินให้ทุกคนๆละ 3,500บาท เข้าบัญชีให้ทุกคน นายกจะเป็นคนกดปุ่ม เป็นค่าตอบแทนความเสียสละของ อสม.ซึ่งค่าตอบแทน 7 เดือนๆละ 500 บาท และต่อไปขอให้การ์ดอย่าตก ทำอย่างเข้มแข็งต่อไป เน้นย้ำใส่หน้ากากอนามัย อีกประมาณ 1 ปี เราน่าจะมีวัคซีนที่ไม่ต้องใส่หน้ากากอีก
นอกจากนี้ในส่วนของยางพาราขึ้นมาเพราะเริ่มมีการเก็บสต๊อกยางแผ่น ส่วนยางเก่าเอาไปทำไอโอดีเซล ส่วนเรื่องท่องเที่ยว ต่อไป จ.สตูล ต้องเป็นเมืองหลักไม่ใช่เมืองรอง โควิดทำให้คนไทยเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น การเดินทางมาครั้งนี้ถือเป็นการขอบคุณพี่น้องจ.สตูลอีกครั้งหนึ่งที่ไว้ใจพรรคภูมิใจไทยทั้ง 2 เขตด้วย
Cr.ข่าว/ภาพ คอดีเย๊าะ เงินเจริญ จ.สตูล