อาชญากรรม » ‘3คนผัวเมีย’ ก๊กเหล้าตั้งแต่หัวค่ำไม่สนเคอร์ฟิว เคลียร์ปัญหารักสามเส้าไม่ได้ สุดท้าย ‘ผัวใหม่แทงผัวเก่าดับ’ 

‘3คนผัวเมีย’ ก๊กเหล้าตั้งแต่หัวค่ำไม่สนเคอร์ฟิว เคลียร์ปัญหารักสามเส้าไม่ได้ สุดท้าย ‘ผัวใหม่แทงผัวเก่าดับ’ 

28 เมษายน 2020
813   0

3คนผัวเมีย ก๊กเหล้าตั้งแต่หัวค่ำไม่สนเคอร์ฟิว พอเมาหนักเคลียร์ปัญหารักสามเส้าไม่ได้ คว้ามีดจวงแทงไม่ยั้ง คมมีดแทงเข้าหัวใจดับคาถนน หลังกระเสือกกระสนหนีตายออกมาได้แค่หน้าบ้าน เจ้าของบ้านสุดงงกลับมาบ้านเจอคนแปลกหน้ามานอนตายหน้าบ้าน สุดท้ายตำรวจ สภ.ปราณบุรี รวบได้หมดทั้งมือมีดและเมียเก่าสภาพเมาเละทั้งคู่   

วันที่ 28เมษายน2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.30 น.ของวันที่ 27เมษายน พ.ต.ต.อนุสรณ์ และมุสอ สารวัตร(สอบสวน)สภ.ปราณบุรี รับแจ้งมีเหตุชายไทย ถูกของมีคมแทงได้รับบาดเจ็บ นอนอยู่บนถนนหน้าบ้าน บริเวณหลังโกลบอลเฮ้าส์ปราณบุรี ม.2 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ประสม หงษ์โต ผกก.สภ.ปราณบุรี ,พ.ต.ท.สุนทร งามเหลือ รอง ผกก.ป.สภ.ปราณบุรี ทราบแล้วรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี พร้อมรถพยาบาลเพื่อออกช่วยเหลือประชาชน ปรากฎว่าเมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ พบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ประสม หงษ์โต ผกก.สภ.ปราณบุรี ได้เรียก พ.ต.ต.พิเชษฐ์ ชัยมาลา สารวัตร สส.สภ.ปราณบุรี พร้อมชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดทันที โดยปิดกั้นพื้นที่เพื่อรอให้ เจ้าหน้าที่ทีมพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าผู้เสียชีวิต เป็นชายไทย อายุประมาณ 30 ปีเศษ สวมกางเกงยีนต์ขายาว ไม่สวมเสื้อ มีรอยสักสี ขนาดใหญ่อยู่ที่ซีกซ้ายของลำตัว ศีรษะเกรียนแบบสกินเฮด ถูกของมีคมแทงเป็นแผลฉกรรจ์หลายแผล โดยแผลสำคัญอยู่ที่บริเวณหัวใจ นอกจากนี้ยังมีรอยแผลที่ สะบักหลังซ้าย , นิ้วมือซ้าย3นิ้ว , คิ้วขวา , ปาก เสียเลือดมากทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เสียชีวิตอยู่บนถนนหน้าบ้าน

ทั้งนี้ห่างเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าวเพียงไม่กี่เมตร พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สแมซ สีชมพู ทะเบียน 1กข4557ประจวบคีรีขันธ์ จอดอยู่ มีคราบเลือดบนเบาะ เปิดดูใต้เบาะพบเสื้อคลุมแบบทหาร มีสิ่งของตกกระจัดกระจายไปทั่ว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบมีดทำครัวเปื้อนเลือด ความยาวประมาณ 8 นิ้ว ตกอยู่ด้วย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจหารอยนิ้วมือแฝง จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี ได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลปราณบุรี เพื่อให้แพทย์ได้ชันสูตรอีกครั้ง

นางธัญญวัลย์ คุ้มทิม เจ้าของบ้าน เล่าว่า ตนเป็นเป็นเจ้าของบ้านจุดที่พบศพผู้เสียชีวิต ซึ่งบ้านหลังนี้ทำเป็นโรงเก็บอุปกรณ์ก่อสร้าง และมีคนงานชายหญิง 2สามีภรรยาพักอาศัยอยู่ ซึ่งช่วงเวลาเกือบ 4 ทุ่มตนกลับมาดูของ ปรากฎว่าเจอคนเสียชีวิต ตอนแรกนึกว่าแค่เมาหลับอยู่กลางถนน ซึ่งตนไม่รู้จักว่าเป็นใครไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน กระทั่งเห็นผิดสังเกตุว่าอาจจะเสียชีวิตจึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งในบ้านนั้นไม่พบคนงานทั้ง2คน ไม่รู้ว่าหายไปไหน ส่วนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สแมซ สีชมพู ทะเบียน 1กข4557ประจวบคีรีขันธ์ ที่จอดอยู่ในบ้าน ตนก็ยังงงและสงสัย เพราะไม่รู้ว่าเป็นรถของใคร

จากนั้นเวลาประมาณ 23.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถควบคุมตัว นางอ้อย จานมี  อายุ 42 ปี ในสภาพเมาสุราพูดจาวกวนฟังไม่รู้ความ อยู่ห่างออกไปจากที่เกิดเหตุไม่กี่ร้อยเมตร ซึ่งเจ้าของบ้านยืนยันเบื้องต้นว่า คือ หนึ่งในคนงานที่หายตัวไป ทั้งนี้เบื้องต้นนางอ้อย ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพอจับใจความได้ว่า ‘สามีใหม่ก่อเหตุแทงสามีเก่า ที่เพิ่งจะพ้นโทษจากเรือนจำมาได้ไม่นาน’

ขณะที่ ‘พยานคนหนึ่ง’ ได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงหัวค่ำได้นั่งดื่มกัน 4 คน คือนางอ้อย , นายสมปอง จันทร์ประสิทธิ์ อายุ 42 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ สามีใหม่นางอ้อย และสามีเก่าที่เพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำได้ขี่รถจักรยานยนต์คันสีชมพูมาหาและขอคืนดีกับนางอ้อย จึงได้นั่งดื่มเพื่อรอเคลียร์ปัญหากัน  โดยพยานดื่มไปเล็กน้อยก็ขอตัวกลับที่พัก กระทั่งมาทราบว่า เกิดเหตุแทงกันเสียชีวิตดังกล่าว คาดว่าจะเคลียร์กันไม่ลงตัวโดยอาจชกต่อยต่อสู้กัน สุดท้ายนายสมปองสามีใหม่ ใช้อาวุธมีดแทงสามีเก่าเสียชีวิต

กระทั่งเวลาล่วงเลยเข้าสู่วันที่ 28 เมษายน ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเคลียร์ที่เกิดเหตุและกำลังจะกลับนั้น ได้สังเกตุเห็นความผิดปกติที่บริเวณใต้โต๊ะตัวหนึ่งภายในบ้านดังกล่าว จึงได้แกล้งร้องเรียกหาว่าเป็นใคร จากนั้นได้เข้าไปตระครุบตัวได้ ที่แท้คือ นายสมปอง จันทร์ประสิทธิ์  สามีใหม่นางอ้อย ซึ่งอยู่ในสภาพเมาสุราพูดจาไม่รู้เรื่องเช่นเดียวกัน โดยรับเบื้องต้นว่า ต่อยกับผู้ตาย เมื่อเห็นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเกิดความกลัวจึงไปแอบอยู่ใต้โต๊ะ ไม่กล้าออกมา ซึ่งแอบอยู่ใต้โต๊ะนานกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว

สุดท้ายเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวกลับมาที่ สภ.ปราณบุรี และจะต้องรอให้หายเมาสุราเสียก่อนจึงจะสามารถสอบปากคำเพิ่มเติมได้  เบื้องต้นคาดว่าผู้ก่อเหตุรายนี้จะถูกตั้งข้อหาหนัก 2 ข้อหาคือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และมั่วสุมดื่มสุรา ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว พรก.ฉุกเฉิน ซึ่งข้อหาฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินนี้ อาจรวมถึงนางอ้อย ผู้เป็นภรรยาด้วย