วันที่ 12 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีพัฒนาที่ดิน ต.บ่อนอก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายวิศวะ ปิติสุขสมบัติ นายด่านศุลกากรประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ นำมะพร้าวเถื่อนอินโดนีเซียที่ลักลอบการขนส่งผ่านพิธีการทางศุลกากรผ่านช่องทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามาในประเทศไทย จำนวน 26 ตัน ซึ่งตรวจยึดมาได้เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา
ซึ่งมะพร้าวเถื่อนทั้งหมดถูกซุกซ่อนมาในรถบรรทุกสิบสองล้อยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 71-1611 เพชรบุรี จำนวน 13.5 ตัน ซึ่งจับกุมได้ที่ถนนเพชรเกษม ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก และรถสิบล้อยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน 70-5728 นครปฐม จับกุมได้ที่ถนนเพชรเกษม ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 12.5 ตัน ซึ่งทั้งหมดเป็นมะพร้าวปอกเปลือกแข็งออกแล้ว ลักษณะผลเล็ก บางส่วนมีเชื้อราขึ้นที่ผลมะพร้าวด้วย
ทั้งนี้จากการสอบสวน พบว่าคนขับรถบรรทุกทั้งสองคัน รับจ้างมาจากนายทุน ให้ไปบรรทุกมะพร้าวนำเข้าจากอินโดนีเซีย ที่บริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อนำไปส่งยังโรงงานแปรรูปกะทิกล่องแห่งหนึ่ง เนื่องจากราคามะพร้าวถูกกว่ามะพร้าวผลในประเทศไทย จึงมีการแอบลักลอบขนผ่านชายแดน
‘สำหรับ มะพร้าว เป็นพืชที่ถูกประกาศให้เป็นสินค้าที่มีมาตรการควบคุมการนำเข้าและสินค้าต้องขออนุญาติเคลื่อนย้าย การนำเข้าสินค้าเกษตรเข้ามาในราชอาณาจักรไทย รัฐบาลกำหนดให้นำเข้าได้เพียง 2 ด่าน เท่านั้น คือ ท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบังเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้มะพร้าวเป็นสินค้าต้องปฏิบัติตาม มาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2562 และแจ้งการนำเข้า เพื่อสุ่มตรวจจากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพและด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง หากนำเข้าด่านอื่นๆ ถือว่าเป็นการลักลอบนำเข้า โดยผิดกฎหมาย’
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มะพร้าวเถื่อนอินโดนีเซียที่ตรวจยึดได้ ถูกนำไปตรวจความงอกของมะพร้าว จากด่านกักกันพืชประจวบคีรีขันธ์ พบว่ามีการงอกของหน่อหรือยอดอ่อนมะพร้าว ซึ่งผิดระเบียบการนำเข้า เจ้าหน้าที่จึงนำมะพร้าวเถื่อนทั้งหมด นำไปทำลายด้วยการทำให้แตกและฝังดินในหลุมขนาดความยาว 16 เมตร กว้าง 4 เมตร ลึก 2.5 เมตร และโรยปูนขาวเพื่อฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันโรคแมลงต่างๆที่อาจติดมากับมะพร้าวเถื่อนดังกล่าว