เป็นข่าว » เร่งพ่นยา ‘ฆ่าแมลงดูดเลือด’ พาหะนำโรคตามคอกม้า แนะกางมุ้งให้ม้าและเฝ้าระวังใกล้ชิด

เร่งพ่นยา ‘ฆ่าแมลงดูดเลือด’ พาหะนำโรคตามคอกม้า แนะกางมุ้งให้ม้าและเฝ้าระวังใกล้ชิด

30 มีนาคม 2020
880   0

คืบหน้าม้าตายที่หัวหิน ปศุสัตว์จังหวัดลงพื้นที่สอบสวนโรค สั่งงดนำม้าลงชายหาดชั่วคราว พบตายเพิ่มแล้ว 8 ตัว สั่งพ่นยาฆ่าแมลงดูดเลือดพาหะนำโรคและแนะนำให้กางมุ้งให้ม้าที่ยังไม่ป่วย

วันที่ 30 มีนาคม 2562 นายสัตวแพทย์ยุษฐิระ บัณฑุกุล ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์จามร ศักดินันท์ หัวหน้ากลุ่มสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด , นายสัตวแพทย์พิทยา คณะมะ ปศุสัตว์อำเภอหัวหิน พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอหัวหิน และ กองสาธารณสุขเทศบาลเมืองหัวหิน ลงพื้นที่ซอยเขาพิทักษ์ ซอยบ่อนไก่ เขตเทศบาลเมืองหัวหิน ซึ่งเป็นสถานที่เลี้ยงม้าชายหาดหัวหิน หลังพบม้าชายหาดมีอาการป่วยในเวลาไล่เรี่ยกัน ด้วยอาการ ซึม ไม่กินอาหาร ปากบวม ลิ้นบวม เยื่อเมือกเป็นสีคล้ำ กล้ามเนื้อสั่น เดินเซ ไข้สูงในบางตัว และตายลงในที่สุด หลังแสดงอาการเพียงแค่ 2 -3 วัน ล่าสุดม้าชายหาดตายเพิ่มเป็น 8 ตัวแล้ว ซึ่งเป็นม้าวัยรุ่น ในระแวกเดียวกัน แต่วันนี้ยังไม่พบว่ามีม้าป่วยหรือตายเพิ่มขึ้น

นายสัตวแพทย์ยุษฐิระ บัณฑุกุล ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีม้าชายหาดตายต่อเนื่องรวม 8 ตัว จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นสันนิฐานว่าน่าจะเป็นอาการของโรคพยาธิในเลือด ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งแต่โรคนี้มียารักษา แต่ก็พบว่าอาการของม้าที่ป่วยตายมีลักษณะหลายอย่างใกล้เคียงกับโรคกาฬโรคม้าที่พบป่วยตายจำนวนมากที่ .นครราชสีมานั้น ขณะนี้ยังไม่ยืนยันโรค ต้องรอผลการตรวจเลือด ชิ้นเนื้อต่างๆที่ส่งตรวจไว้ที่ห้องปฏฺิบัติการศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันตก .ราชบุรี คาดทราบผลในอีก 1-2 วันนี้

ทั้งนี้หากผลตรวจยืนยันว่าเป็นกาฬโรคม้าจริง จะต้องมีการประกาศพื้นที่โรคระบาดสัตว์ และทำลายสัตว์ป่วย และต้องเร่งค้นหาต้นตอของเชื้อโรค หรือรังโรค  รวมทั้งค้นหาสัตว์ตัวที่ป่วยแต่ยังไม่แสดงอาการ หรือที่เรียกว่าอมโรคไว้เพื่อทำลายเชื้อให้หมด  ในระยะนี้ห้ามเคลื่อนย้าย หรือนำเข้าม้าเป็นการชั่วคราว รวมถึงขอความร่วมมือห้ามนำม้าลงชายหาดเป็นการชั่วคราวด้วยเช่นกัน จนกว่าจะรู้โรคชัดเจน และทำลายเชื้อได้หมด

สำหรับในวันนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองสาธารณสุข เทศบาลเมืองหัวหิน เข้าฉีดพ่นยาฆ่าแมลง โดยได้เพิ่มปริมาณยาให้มีความเข็มข้นสูง โดยยาฆ่าแมลงจะต้องมีระยะเวลาการออกฤทธิ์ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อตัดวงจรชีวิตของแมลง โดยเฉพาะแมลงดูดเลือด ทั้งยุง ริ้น ไร ต่างๆ ตามคอกที่อยู่อาศัย สิ่งของที่ม้าใช้ ฯลฯ ซึ่งแมลงดูดเลือดเป็นพาหะนำโรคในสัตว์ โดยจะฉีดพ่นยาฆ่าแมลงตามคอกม้าต่างๆกว่า 70 ตัว รวมทั้งในคอกม้าที่พบมีม้าตายด้วย อีกทั้งได้แนะนำให้เจ้าของม้า กางมุ้งให้ม้าตามคอกที่ยังไม่พบอาการป่วยด้วย เพื่อป้องกันอีกทางหนึ่ง และให้เฝ้าสังเกตุอาการของม้าใกล้ชิดหากเริ่มมีอาการป่วยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

นายสำอางค์ อำพวา อายุ 67 ปี เจ้าของคอกม้า ซอยเขาพิทักษ์กล่าวว่า เลี้ยงม้าเป็นอาชีพมานานกว่า 40ปี แล้ว ไม่เคยพบอาการป่วยของม้าแบบนี้มาก่อน ที่ผ่านมามีเพียงอาการท้องอืด แน่นท้องแล้วป่วยตายเท่านั้นที่เป็นปัญหา แต่มาพบอาการป่วยกระทันหันแค่ไม่กี่วันแล้วตายเลยแบบนี้ยังไม่เคยเจอมาก่อน สำหรับคอกของตนนั้น มีม้าตายรวม 6 ตัว โดย 1ตัว เป็นของหลาน อีก 2 ตัว เป็นของลูกชาย และของตนเอง ตายอีก 3 ตัว ซึ่งม้าที่ตายมีราคาสูงตัวละ 8-9 หมื่นบาท ซึ่งตัวที่ตนรัก เป็นม้าหนุ่ม อายุ 10ปี ชื่อโซลักกี้ สีน้ำตาลเข้ม ลักษณะดี และเคยร่วมแสดงหนังมาแล้ว ราคาสูงกว่า 130,000 บาท ซึ่งตายเป็นตัวล่าสุด รู้สึกเสียดายมาก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อและฆ่าแมลงที่คอกแล้ว ในอนาคตคิดกลับมาเลี้ยงม้าอีก แต่ต้องหาทุนก่อน เพราะตอนนี้เรียกได้ว่าหมดตัวแล้ว