เป็นข่าว » หัวหินยอดผู้ติดเชื้อโควิด ทะลุ12รายแล้ว ล่าสุดเป็น’นทท.อังกฤษ วัย51ปี’เป็นเพื่อนกับผู้ป่วยรายที่ 3 สัมผัสเชื้อ13 วันแสดงอาการ

หัวหินยอดผู้ติดเชื้อโควิด ทะลุ12รายแล้ว ล่าสุดเป็น’นทท.อังกฤษ วัย51ปี’เป็นเพื่อนกับผู้ป่วยรายที่ 3 สัมผัสเชื้อ13 วันแสดงอาการ

31 มีนาคม 2020
670   0

หัวหินพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด19 รายที่12 แล้ว ล่าสุดเป็น นทท.ชาวอังกฤษวัย 51ปี พบประวัติสัมผัสโรคเนื่องจากเป็นเพื่อนกับผู้ป่วยรายที่ 3 หลังรู้ว่าเพื่อนติดเชื้อได้กักตัวเองดูอาการ เข้าวันที่ 13 เริ่มป่วยไข้ต่ำ คัดจมูก น้ำมูกไหล เข้ารักษาโรงพยาบาลเอกชน  ขณะที่ทีมควบคุมโรคตามตัวคนขับรถรับจ้างเสี่ยงสูงสุดขับรถพามาโรงพยาบาล ส่วนพนักงานโรงแรมเสี่ยงต่ำเพราะคนไข้กักตัวเองอยู่แต่ในห้องก่อนแล้ว

วันที่ 31 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์สุริยะ  คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยล่าสุด พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย ที่ อ.หัวหิน นับเป็นผู้ป่วยติดเชื้อรายที่ 12 ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แล้ว

สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อรายที่ 12 นี้ คือ นักท่องเที่ยวชายชาวอังกฤษ อายุ 51 ปี ซึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวที่ อ.หัวหิน ทั้งนี้พบประวัติเป็นเพื่อนกับผู้ป่วยติดเชื้อรายที่ 3 ซึ่งเป็นชายชาวอังกฤษ อายุ 60 ปี ที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ก่อนมีอาการป่วย กระทั่งยืนยันตรวจพบเชื้อโควิด เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ขณะนี้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน มีอาการดีขึ้นและกำลังจะได้ออกจากโรงพยาบาลในวันนี้

ทั้งนี้เมื่อผู้ป่วยติดเชื้อรายที่ 12 ภายหลังทราบว่าเพื่อนชาวอังกฤษติดเชื้อโควิด19 จึงได้กักตัวเองอยู่ในห้อง เพื่อสังเกตุอาการทันที กระทั่งเริ่มมีอาการป่วย ด้วยอาการไข้ต่ำๆ คัดจมูก น้ำมูกไหล  เมื่อนับเวลาการสัมผัสเชื้อ กินเวลา 13 วัน ถึงเริ่มมีอาการ  จึงเดินทางมาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน  เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563  และยืนยันผลตรวจพบเชื้อโควิด19 ในวันนี้

โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ทีมควบคุมโรคสำนักงานสาธารณสุขประจวบคีรีขันธ์ และ สาธารณสุขอำเภอหัวหิน กำลังติดตามผู้สัมผัสโรคกับผู้ป่วยรายที่ 12  ซึ่งมีความเสี่ยงสูงคือ  คนขับขี่รถรับจ้าง ที่นำผู้ป่วยรายนี้มาส่งโรงพยาบาล เพื่อสอบสวนโรคและกักตัว 14 วัน ส่วนพนักงานโรงแรมและเจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่พักอาศัยของนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษรายนี้มีความเสี่ยงต่ำ แต่ก็ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง ทั้งหมดต้องกักตัว 14 วัน เช่นเดียวกัน

สำหรับผู้ป่วยรายล่าสุดนี้ จะมีกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังน้อยกว่ารายอื่น เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผู้ป่วยรายที่ 12 นี้ได้เก็บตัวอยู่แต่ในที่พักทันทีที่รู้ว่าเพื่อนป่วยติดเชื้อโควิด19 และปรากฎเป็นผู้ป่วยรายที่3 ที่ผ่านมาไม่ออกไปไหน ใช้วิธีสั่งอาหารมารับประทานที่ห้อง และทำความสะอาดห้องด้วยตัวเอง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อบุคคลอื่นไปได้มาก ขณะที่มาตราฐานด้านสาธารณสุขของโรงแรมดังกล่าวถือว่าทำได้ดีมาก พนักงานใส่หน้ากากอนามัยทุกคน วัดไข้พนักงานทุกวัน และมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อตลอดเวลา

นายแพทย์สุริยะ  กล่าวเพิ่มเติมว่า  นอกจากนี้มีผู้ป่วยชาวมุสลิม เสียชีวิต 1 ราย บนรถไฟขบวนรถด่วนที่ 37 บางซื่อ – สุไหง โกลก โบกี้ที่ 4 เลขที่นั่ง 28 เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 31 มีนาคม ผู้เสียชีวิตคือ นายอนันต์ สาเหาะ อายุ 57 ปี ชาว จ.นราธิวาส  เดินทางกลับจากทำธุรกิจที่ประเทศปากีสถานซึ่งเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 และเดินทางต่อที่สถานีรถไฟบางซื่อ กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาด

ทั้งนี้ระหว่างเดินทางถึงสถานีรถไฟหัวหิน  มีอาการเป็นลม เพื่อสอบประวัติพบว่าเป็นเบาหวาน กระทั่งนายสถานีมาพบอีกครั้ง ผู้ป่วยเสียชีวิตแล้วที่สถานีรถไฟทับสะแก จึงแจ้งโรงพยาบาลเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 30 มีนาคม ทางทีมโรงพยาบาลทับสะแก ได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่าง สารคัดหลั่งในโพรงจมูก ตรวจหาเชื้อโควิด19 จากนั้นนำร่างของผู้เสียชีวิตใส่ถุงซิปล็อค 3 ชั้น ก่อนจะประสานภรรยาที่ จ.นราธิวาส เพื่อดำเนินการต่อตามประกาศที่ท่านจุฬาราชมนตรีได้ประกาศว่า ให้ดำเนินการป้องกันการติดเชื้อโควิดสำหรับผู้เสียชีวิตที่สงสัยว่าติดเชื้อ  ซึ่งทางญาติตัดสินใจประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม โดยนำร่างฝังที่ อ.ทับสะแก โดยขุดหลุมฝัง 2 เมตร มีการโรยปูนขาวหนึ่งครั้งก่อนนำร่างมาไว้กลบหลุมแล้วโรยปูนขาวอีกชั้น แล้วจึงกลบด้วยดินสูง 2 เมตรเหมือนเดิม

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวอย่างทั้งหมดเพื่อตรวจแล้วที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.สมุทรสงครามตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านม าคาดว่าจะรู้ผลประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 31 มีนาคม 2563   ทั้งนี้ผู้สัมผัสเชื้อซึ่งเป็นผู้โดยสารร่วมตู้รถไฟ 40 กว่า คน ขณะนี้มีรายชื่อแล้ว รอผลแล็ปยืนยันเชื้อออกมาก่อน เพื่อประสานจังหวัดปลายทางติดตามต่อ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เสียชีวิตรายนี้ ยังไม่ได้ยืนยันการติดเชื้อโควิดแต่อย่างใด เพียงแต่สงสัยจึงดำเนินการตามมาตราการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคตามขั้นตอนเท่านั้น

สำหรับข้อมูลสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด19 ในเขตพื้นที่ อ.หัวหิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563นั้น ผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 12 คน รักษาตัวอยู่ใน รพ. 10 คน เป็นโรงพยาบาล ในพื้นที่หัวหิน 8 ราย เข้าไปรักษา รพ.ในกรุงเทพฯ 2 ราย และรักษาหายกลับบ้านแล้วจำนวน 2 คน

ขณะที่บุคคลต้องเฝ้าระวังทั้งสิ้น 125 คน ครบกำหนดกักตัวเอง(จบการติดตาม) แล้ว 55 คน คงเหลือบุคคลต้องเฝ้าระวัง 70 คน ประกอบด้วยแรงงานผิดกฎหมายเกาหลีใต้ 5 คน บุคคลที่เดินทางมาจากประเทศหรือพื้นที่เสี่ยง 65 คน แยกเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 60 คน คนไทย 5 คน โดยเดินมาจากยุโรป 48 คน เกาหลีใต้ 8 คน จีน 3 คน ฮ่องกง 3 คน ลาว 1 คน สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ 1 คน ฟิลิปปินส์ 1 คน และ สหรัฐอเมริกา 4 คน โดยกลุ่มเสี่ยงทุกรายอยู่ในการติดตามดูแลของเจ้าหน้าที่ทีมควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด.