เดินเที่ยว » แห่งเดียวในประจวบคีรีขันธ์ “ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” ตามหาดอกปอคาวโบราณ

แห่งเดียวในประจวบคีรีขันธ์ “ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” ตามหาดอกปอคาวโบราณ

10 กุมภาพันธ์ 2024
435   0

แห่งเดียวในประจวบคีรีขันธ์ “ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม” ตามหาดอกปอคาวโบราณ ที่วนอุทยานห้วยน้ำซับ

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาววราภรณ์ ไชยสมุทร หัวหน้าวนอุทยานห้วยน้ำซับ พร้อมด้วย นางวันเพ็ญ ลักยิ้ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านสายเพชร ได้จัดกิจกรรม “ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม ชมความงาม ดอกกาสะลอง” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่วนอุทยานฯ และชาวบ้านชุมชนบ้านสายเพชร ร่วมกันอนุรักษ์ สืบทอด และจัดกิจกรรมต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่ 19 โดย 1 ปี จะมีการจัดงานแค่เพียง 1 วันเท่านั้น

โดยวันนี้มี นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี, นายเอกฤทธิ์ ดวงมาลา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม(เตรียมการ), นายนุกุล วัฒนากร ปลัดอาวุโสอ.บางสะพาน พร้อมผู้นำชุมชนท้องถิ่น, ชาวบ้านในชุมชนบ้านสายเพชร และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เข้าร่วมกิจกรรม ณ วนอุทยานห้วยน้ำซับ ม.9 บ้านสายเพชร ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

นางสาววราภรณ์ ไชยสมุทร หัวหน้าวนอุทยานห้วยน้ำซับ เปิดเผยว่า สำหรับกิจกรรม “ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม ชมความงาม ดอกกาสะลอง” ในปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม เป็นช่วงที่ดอกกาสะลอง หรือ ดอกปอคาว อายุนับร้อยปี บนยอดเขาปู่ด่างกำลังเบ่งบาน อวดสีสัน สีแดงอมส้มอยู่เหนือยอดเขา ขณะนี้เริ่มบานได้ประมาณ 30-40 %

นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางมาชมได้ทุกวัน และจะบานสะพรั่งเต็มที่ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ หรือ ต้นเดือนมีนาคมนี้ และในช่วงปลายเดือนจะกลายเป็นฝักสีเข้มสวยงามไม่แพ้กัน โดยการชมต้องเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ขึ้นไปบนยอดเขาปู่ด่าง ระยะทางประมาณ 450 เมตร

ลักษณะเส้นทางสูงชันตามเขาแต่เดินไม่ยากนัก มีเชือกกั้นเป็นไกด์นำทางในจุดที่อาจจะเป็นอันตราย โดยจะใช้เวลาเดินประมาณ 30-40 นาที ถึงลานดอกปอคาวบนยอดเขา ส่วนด้านบนยอดเขามีหินปูนแหลมคมควรสวมถุงมือและเดินด้วยความระวัง อีกทั้งต้องระวังหนามแหลม จากต้นมะยมทองบนยอดเขาด้วย

สำหรับวนอุทยานห้วยน้ำซับ ได้ประกาศจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2549 ขนาดเนื้อที่ 2,705 ไร่ ใน ต.ทองมงคล และ ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายในวนอุทยานห้วยน้ำซับ มีต้น “ปอคาว” หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่าดอก “กาสะลอง” ซึ่งเป็นไม้ป่าโบราณ อายุนับ 100 ปี ซึ่งปัจจุบันหาชมได้ยากในประเทศไทย แต่ยังพบเห็นได้ตามยอดเขาหินปูนในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไป

โดยที่วนอุทยานห้วยน้ำซับ มีต้นปอคาวขึ้นอยู่บนยอดเขาหินปูนจำนวนหลายร้อยต้น ทั้งนี้ดอกปอคาวที่วนอุทยานห้วยน้ำซับ จะมีสีแดงอมส้ม หรือ สีส้มเข้มกว่าทางภาคเหนือ ช่อดอกยาว 5-12 ซม. ปลายกลีบดอกแยกเป็น 5 แฉก และจะบานสะพรั่งให้ได้ชมความงามเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น 

ทางด้าน นายเอี่ยม แสนสบาย อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.9 กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกของหมู่บ้าน และเป็นคนริเริ่มกิจกรรม “ขึ้นเขาเผาข้าวหลาม” นี้ โดยครั้งแรกเมื่อปี 2548 ก่อนมีวนอุทยานฯ สมัยที่นายประดิษฐ์ ยมานันท์ เป็นนายอำเภอ

ได้ริเริ่มกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในชุมชน และได้พากันขึ้นเขาเพื่อไปดูดอกกาสะลองบนยอดเขาตามความเข้าใจของชาวบ้าน ภายหลังจึงรู้ว่าคือดอกปอคาว และนำอุปกรณ์สำหรับทำข้าวหลามขึ้นไปเผาด้านบนยอดเขาด้วย เพื่อรับประทานแก้หิวก่อนเดินลงจากเขา

กระทั่งชาวบ้านในชุมชนขอให้มีการจัดตั้งอุทยานฯ ขึ้นเพื่อรักษาป่าไม้ไว้ จึงได้ยกเลิกการเผาข้าวหลามบนเขา แต่นำมาเผาด้านล่างที่บริเวณลานวนอุทยานห้วยน้ำซับแทน และถือปฏิบัติสืบกันมา จนกลายเป็นวิถีชุมชน  

โดยกิจกรรมในวันนี้ชาวบ้านในหมู่บ้าน ได้ร่วมกันนำข้าวเหนียว น้ำกะทิ หัวดำ และไม้ไผ่ทำช่วยกันทำเป็นข้าวหลาม จำนวน 500 กระบอก โดยเผาข้าวหลามกันแบบโบราณ  เพื่อแจกจ่ายให้กับนักท่องเที่ยวได้ชิมรสชาติความอร่อย และสามารถแบ่งกลับไปรับประทานที่บ้านได้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับกิจกรรมท่องเที่ยวที่ยังคงเอกลักษณ์และมีกลิ่นไอของวิถีชุมชนของบ้านสายเพชรแบบดั้งเดิมไปพร้อมกัน

นางสาวจิราวรรณ บุญฤทธิ์ รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมขึ้นเขาเผาข้าวหลามฯนี้ ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ผสมผสานกับวิถีชุมชนที่น่าสนใจ อีกทั้งกิจกรรมชมดอกปอคาวบนยอดเขา ภายในวนอุทยานห้วยน้ำซับ แห่งเดียวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยังถือเป็นกิจกรรมที่น่าส่งเสริมและสนับสนุนอย่างยิ่ง

ซึ่งตรงกับแนวคิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ในแคมเปญสุขทันทีที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์ และ 365 วันเที่ยวได้ทุกวัน

ทั้งนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักประจวบคีรีขันธ์ พร้อมที่จะร่วมสื่อสารประชาสัมพันธ์กิจกรรมของวนอุทยานห้วยน้ำซับและชุมชนบ้านสายเพชร ให้กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายปลายทาง ทางด้านการท่องเที่ยวที่ผสมผสานกับวิถีชุมชนที่น่าสนใจในอำเภอบางสะพาน.

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจขึ้นเขา ชมดอกปอคาว ที่วนอุทยานห้วยน้ำซับ ซึ่งเป็นสถานที่ชมดอกปอดาว หรือดอกกาสะลอง แห่งเดียวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สามารถเที่ยวชมได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมคือช่วงเช้าเวลา 07.00-09.00 น. และช่วงเย็นเวลา 16.00-18.00 น. บนเขาสามารถมองวิวความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าได้โดยรอบ

ทั้งนี้วนอุทยานห้วยน้ำซับ ตั้งอยู่ ม.9 บ้านสายเพชร ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยอยู่ห่างจากถนนเพชรเกษม กม.ที่ 389 ประมาณ 2 กิโลเมตร เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.087-4030757 หรือที่เพจ : วนอุทยานห้วยน้ำซับ.